tanin_timtong_thailand_fy18_ii

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับ คุณธานินทร์ ทิมทอง ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เลิร์น เอ็ดดูเคชั่น จำกัด กิจการเพื่อสังคมที่สามารถสร้างผลลัพธ์ทางสังคมที่วัดได้กับการได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกอโชก้าเฟลโลว์ (Ashoka Fellow) ประจำปี 2018 จากการที่เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการสังคม (Social Entrepreneur) ที่มีความคิดสร้างสรรค์และแก้ไขปัญหาสังคมเชิงโครงสร้าง ได้รับการสนับสนุนจากอโชก้าซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนระดับโลกที่สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมผ่านการสร้าง “นวัตกรรม” มาเป็นเวลานานหลายสิบปี www.ashoka.org/en-TH/fellow/tanin-timtong

จากข้อมูลของอโชก้าไทยแลนด์ www.facebook.com/AshokaThailand/ ระบุว่าองค์กรจะคัดเลือกผู้ประกอบการสังคมชั้นแนวหน้าเป็นสมาชิกกว่า 2,500 คน ใน 60 กว่าประเทศทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยมีอโชก้าเฟลโลว์กว่า 98 คน

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอโชก้าซึ่งเป็นแหล่งรวมผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางสังคมจากทั่วทุกมุมโลก ผมต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคน รวมถึงผู้ที่ให้การสนับสนุนทุกท่านที่เป็นส่วนสำคัญของการร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงนี้” คุณธานินทร์กล่าว

คุณธานินทร์ยังบอกอีกว่าสิ่งที่สำคัญกว่าความรู้สึกดังกล่าวคือ การย้ำเตือนว่างานที่เขากำลังตั้งใจทำอยู่นั้นเป็นงานที่อโชก้าเชื่อมั่นว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ทางด้านการศึกษาสำหรับประเทศไทยในอนาคตได้ เป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนให้ทีมงาน เลิร์น เอ็ดดูเคชั่น มุ่งมั่น ตั้งใจทำอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ต่อนักเรียนและคุณครูทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ สมกับที่มีหลายๆ คน และหลายๆ องค์กร คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้พวกเขาในการเป็นส่วนหนึ่งของภาคีในระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาให้กับเด็กๆ

การเป็นส่วนหนึ่งของอโชก้าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเชื่อมต่อองค์ความรู้และความร่วมมือกับ อโชก้าเฟลโลว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งที่อยู่ในแวดวงการศึกษาและแวดวงอื่นๆ ได้มากขึ้น อันจะส่งคุณค่าต่อการพัฒนางานและพัฒนาการศึกษาได้ในหลายมิติ เช่น การเเลกเปลี่ยนและต่อยอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ของเฟลโลว์ที่ทำงานด้านการศึกษา การได้เชื่อมต่อแนวความคิดใหม่ๆ จากผู้ที่กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อการศึกษาในอนาคต การเปิดประตูให้คนในวงกว้างได้รับรู้และเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ๆ ที่จะพัฒนาการศึกษาในประเทศไทยได้เร็วขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกและความยั่งยืนให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำและคุณภาพทางการศึกษา ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและมีการพูดถึงมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

“การได้รับเลือกให้เป็น Ashoka Fellow ในปี 2018 นี้เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนพวกเราว่างานที่ทำอยู่มีความหมายขนาดไหน อีกทั้งยังมีเครือข่ายและผู้คนอีกหลายคนที่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกจะเกิดขึ้นและก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน” คุณธานินทร์กล่าว

เมื่อไม่นานมานี้ทีมงานได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณธานินทร์เกี่ยวกับการทำงานด้านการศึกษาโดยคุณธานินทร์ได้สะท้อนหลักคิดพื้นฐานที่มีต่อการศึกษาเอาไว้อย่างน่าสนใจ

“การศึกษามีคุณค่า และเทคโนโลยีจะมีบทบาทมากในอนาคต ซึ่งจะช่วยพัฒนาการศึกษาให้ดีขึ้น ส่วนผลกระทบ คือ เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษาและต้องกระจายไปทั่วถึง ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด” คุณธานินทร์กล่าว

แน่นอนว่ามุมมองดังกล่าวได้สะท้อนผ่านผลงานที่คุณธานินทร์และทีมงานร่วมกันสร้างสรรค์ออกมาอย่างต่อเนื่อง

กว่า 7 ปีที่ “เลิร์น เอ็ดดูเคชั่น” ได้นำนวัตกรรมการศึกษาที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์มาเป็นเครื่องมือช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์รูปแบบใหม่ ช่วยให้การสอนน่าสนใจ เรียนสนุก เนื้อหาเข้าใจง่าย สอดคล้องกับหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการเรียนการสอนแบบครบวงจร รวมทั้งเป็นเครื่องมือช่วยสนับสนุนครูให้บริหารจัดการรูปแบบการเรียนการสอนและตอบโจทย์การขาดแคลนครูด้วยซอฟต์แวร์ ไฟล์การเรียนที่แยกแต่ละหน่วยการเรียน ดิจิทัลคอนเทนต์เนื้อหาการเรียนที่ตรงตามหลักสูตรแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมกับวิดีโอภาพ และเสียงที่ง่ายต่อการเข้าใจและจดจำ พร้อมทั้งตำราและแบบฝึกหัด คู่มือครู เพื่อให้ผู้เรียนและผู้สอนเข้าใจบทเรียนไปพร้อม ๆ กัน โดยมีการทบทวนและการฝึกฝนความรู้จากทีมฝึกอบรมและให้บริการของเลิร์น เอ็ดดูเคชั่น ให้การสนับสนุนการใช้งานในระบบ โดยมีนักเรียนและครูใช้ระบบเลิร์น เอ็ดดูเคชั่น กว่า 40,000 คน 150 โรงเรียนทั่วประเทศ (ข้อมูลเดือน ธ.ค 2560) และผลการใช้เครื่องมือดังกล่าวปรากฏว่านักเรียนมีผลคะแนน O-Net ดีขึ้น

ด้วยเหตุผลที่คุณธานินทร์ต้องการให้นักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาที่ดีที่สอดคล้องกับความสนใจและได้ประกอบอาชีพที่เหมาะสม เขามุ่งมั่นปฏิรูประบบการศึกษาด้วยการหนุนเสริมให้โรงเรียนและครูเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมสร้างโอกาสให้กับเด็กด้อยโอกาสในโครงการ “ร้อยพลังการศึกษา” ดำเนินการและบริหารงานโดย “โครงการร้อยพลังเปลี่ยนประเทศ” มูลนิธิเพื่อคนไทย ในการเพิ่มโอกาสศึกษาที่มีคุณภาพผ่านห้องเรียนดิจิทัลวิชาวิทย์-คณิต ที่เรียนรู้ง่าย

“ในฐานะคนทำงานภาคเอกชนในระดับบริหารมา 10 กว่าปี ผมถามตัวเองว่าชีวิตผมมีคุณค่าไหม ตายไปผมจะรู้สึกเติมเต็มกับชีวิตได้ไหม คำตอบคือไม่ แต่ถ้าผมทำให้ชีวิตเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ มันน่าจะดีกว่า จึงเป็นจุดตัดสินใจและก็โชคดีที่สิ่งที่ทำและเชื่อ มันเชื่อมโยงกับแนวทางแก้ปัญหากับหลายคน”

นี่คือประโยคปิดท้ายของคุณธานินทร์ที่สะท้อนให้เห็นว่าชีวิตของเขากว่าจะถึงวันนี้หาใช่แค่การเห็นคุณค่าของชีวิต หากสิ่งสำคัญคือการได้ทำประโยชน์ให้กับวงการการศึกษาไทยจนทำให้เขาคือหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัล Ashoka Fellow ปี 2018 ของประเทศไทย