เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่เหล่านักร้อง ศิลปิน ดารา พิธีกร และคนในวงการบันเทิงจากหลากหลายค่าย ให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นจิตอาสาคับคั่ง สำหรับงานรวมพลจิตอาสาครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย “คนไทยขอมือหน่อย ปี 2 ได้เวลาลงมือทำให้สังคมน่าอยู่” ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หอการค้าไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และองค์กรภาคสังคมกว่า 140 สถาบัน เพื่อสร้างพื้นที่รวมพลังของคนลงมือทำเพื่อสังคม “ลงแรง ลงขัน ลงสมอง” ซึ่งจัดขึ้นบริเวณ ลานสแควร์ A, B, C, D, ลานอีเดนและลานเซ็นทรัล คอร์ท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 17-18 มกราคมที่ผ่านมา

ภายในงานเป็นการระดมองค์กรที่ทำงานเพื่อสังคม ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านอาสาภาคประชาชน ด้านปัญญา จิตวิญญาณ ด้านคุณภาพชีวิตสุขภาพกายสุขภาพใจ ด้านสตรีและครอบครัว ด้านนวัตกรรมสังคม ตลอดจนกิจการเพื่อสังคม มาออกร้านและจัดนิทรรศการ รวมถึงเสวนาเพื่อสังคมน่าอยู่ เชิญชวนคนไทยที่มาเที่ยวชมงาน “ลงแรง” กับงานอาสาที่อยู่ในความสนใจ และทำกิจกรรม DIY ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม “ลงขัน” สนุกกับคอนเสิร์ตเปิดหมวกและซื้อสินค้าดีๆ และ “ลงสมอง” เรียนรู้ทักษะความเชี่ยวชาญในการจัดการกับองค์กรธุรกิจใจดี

คับคั่งด้วยศิลปินชื่อดัง ศิลปินอินดี้ นักแสดง และคนในวงการบันเทิง ทั้งรุ่นจิ๋ว รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ ยกมือเข้าร่วมเป็นอาสาชนิดไม่คิดค่าตัว!!! จากหลากค่าย อาทิ นักแสดงจากช่อง 3, เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, ทีมพิธีกรจากรายการบ้านพระราม 4, ทีมพิธีกรจากรายการ 168 ชั่วโมง, นักร้องจากรายการThe Family Gang, นักร้องตัวน้อยฑูตอารยสถาปัตย์, AF, สหภาพดนตรี, และอีกมากมายที่มามอบความบันเทิง แสดงคอนเสิร์ตเปิดหมวก ขายสินค้า และมอบของประมูล เพื่อนำเงินสมทบทุนเข้ากิจการเพื่อสังคมและมูลนิธิต่างๆ ไปใช้ในการพัฒนาสังคมต่อไป

 

งานนี้มีเหล่าศิลปินขนบทเพลงมาสร้างความสนุกสนานชนิดไม่มีกั๊ก ไม่ว่าจะเป็น “นัน” สุนันทา ยูรนิยม AF 10, “ถังเบียร์” ภูริวัชร์ ธีระชาติ ผู้ชนะเลิศ AF 10, “ฝ้าย” ธนวรรณ เถาว์มูล พิธีกรรายการ 168 ชั่วโมง และเจ้าของซิงเกิล “ขอบคุณที่หาฉันเจอ”, “เทม” เมธี ทับทิมทอง AF 10, “นนท์”ภูดิศ สุริยวงศ์ และ “ยีนส์” เกวลิน ศรีวรรณนา นักแสดงจากละครธิดาแดนซ์, “น้องจูน” จิดาภา จินดาวัฒน์ “น้องเพลง” พิชญนันท์ ศิราวิริยานนท์“น้องจ๊ะจ๋า” ณปภัช วรพฤทธานนท์ และ “น้องวาว่า” ด.ญ.พิมพ์นเรศ ลำใย ฑูตอารยสถาปัตย์, “เชน” เตชินท์ ปิ่นชาตรี นักแสดงที่โด่งดังจากละครคุณชายรัชชานนท์, “เอิ๊ต” ภัทรวี ศรีสันติสุข ศิลปินน้องใหม่จากค่ายแกรมมี่ รวมถึงศิลปินอินดี้อย่าง พุฒิยศ ผลชีวิน แห่งวงภูมิจิตร และขาประจำงานอาสาอย่าง วงแฮมเมอร์ ร่วมด้วย “อาร์ม” พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์, วิบูลย์ ลีรัตนขจร ที่มาเป็นพิธีกรอาสา และอีกมากมาย

ขณะที่เหล่า AF 11 อย่าง “เอม” สาธิดา ปิ่นสินชัย, “น้ำ” กัญญ์กุลณัช ปัญญากิตตินันท์ และ “พูม” ภูมิสิทธิ์ วงศ์สมบูรณ์ ไม่เพียงจะมามอบเสียงเพลงเท่านั้น แต่ยังหอบภาพเหมือนของตัวเองมาประมูลบนเวที จึงเรียกได้ทั้งเสียงกรี๊ดกร๊าดจากแฟนคลับที่มาคอยกันจนแน่นลานเซ็นทรัลคอร์ท และเรียกเงินบริจาคจากยอดประมูลภาพได้สูงถึง 10,000, 17,000 และ 15,000 บาท ตามลำดับ โดยรายได้ในส่วนนี้ทั้งหมดมอบให้โครงการเทใจดอทคอมwww.taejai.com

ทั้งนี้เหล่าศิลปินที่มาร่วมเป็นอาสาครั้งนี้ ได้ให้ทัศนคติการเป็นจิตอาสาของพวกเขาและบทบาทของศิลปินที่มีต่อการสร้างสรรค์สังคมเอาไว้อย่างน่าสนใจหลากหลายมุมมอง เริ่มต้นที่หัวเรือใหญ่ วิบูลย์ ลีรัตนขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทเซิร์ช ที่งานนี้รับหน้าที่พิธีกรอาสา และชักชวนศิลปินจากเซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มาช่วยงาน “คนไทยขอมือหน่อย” ทั้ง 2 ปี เปรียบเทียบความต่างระหว่าง 2 ปีที่ผ่านมานี้ว่า สังเกตได้ว่ามีคนเริ่มรู้จักงานนี้มากขึ้น มีหลายหน่วยงานมาร่วมงานนี้มากขึ้น ดูจากกระแสที่มีน้องรุ่นใหม่ๆ เข้ามาร่วมกิจกรรมเยอะขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯ เองก็มาร่วมเป็นภาคีด้วย เพราะเห็นความสำคัญของการเป็นจิตอาสา อยากให้คนได้รู้จักองค์กรเพื่อสังคมที่มีอยู่มากมาย เพื่อให้ประเทศไทยเต็มไปด้วยผู้คนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มาช่วยกันทำงานสาธารณประโยชน์มากขึ้น

“ผมมองจิตอาสาเป็นเรื่องจิตวิญญาณของมนุษย์เลยนะ การที่เรารู้จักให้คือพื้นฐานของความเป็นคน ผมว่าจริงๆ ยิ่งเราให้ก็ยิ่งได้รับ เพราะถ้าเรามีความรู้สึกที่จะให้ อยากช่วยเหลือคนอื่น ใจเราก็จะสบาย เกิดความรู้สึกดีๆ ในจิตใจ คุณอาจจะไปร่วมกับหน่วยงานหรือองค์กรไหนก็ได้ ถ้าเริ่มต้นไม่ถูกอาจเริ่มจากสิ่งที่สนใจก่อนก็ได้ ยิ่งสมัยนี้สังคมเปิดกว้างให้ทำกิจกรรมเพื่อสังคมได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ช่วยให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น”

เช่นเดียวกับศิลปินรุ่นใหญ่ที่มาร่วมงานนี้ 2 ปีแล้วเช่นกันอย่างวงแฮมเมอร์ ซึ่งยืนหยัดบนเส้นทางดนตรีเพื่อชีวิตมานานกว่า 30 ปี อนุชา ประธานมือกีต้าร์และน้กร้องวงแฮมเมอร์ เผยว่า มนุษย์แต่ละคนมีความสามารถไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพใด ดังนั้นการช่วยเหลือสังคมจึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนอยู่แล้ว เช่นเดียวกับศิลปินอย่างแฮมเมอร์ ก็ทำหน้าที่ในฐานะศิลปินเพลงให้ดีที่สุด ถ่ายทอดความรู้สึกในการช่วยเหลือสังคมเหล่านั้นไปทางบทเพลง เพราะการถ่ายทอดเรื่องราวการช่วยเหลือผ่านบทเพลง ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงปัญหานั้นๆ ได้เร็วมากกว่าการพูดเฉยๆ

“โดยเจตนารมณ์ของเรา ผมอยากให้ทุกคน ทุกฝ่าย ออกมาหยิบยื่นความช่วยเหลืออยู่แล้ว และอยากให้ทุกคนออกมามากกว่านี้ อย่างแฮมเมอร์แน่นอนเราทำหน้าที่ตรงนี้มาตลอด 30 ปี และยังคงพัฒนาการทำงานของเราต่อไป ด้วยการออกเดินสายต่างจังหวัด ทำงานให้เข้าถึงผู้คนให้มากยิ่งขึ้น อย่างที่พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าไว้ ‘ปลูกไว้ในใจคน’ ทุกเรื่องเราจะแก้ปัญหาไม่ได้ถึงสิ่งนั้นไม่ได้อยู่ในใจคนแล้ว ฉะนั้นหน้าที่ของศิลปินคือทำอย่างไรก็ได้ จะเผยแพร่ทางบทเพลง หรือการพูดจา เพื่อให้สิ่งนี้อยู่ในใจของผู้คน”

นอกจากนี้ สมาชิกวงแฮมเมอร์คนเดิมยังเพิ่มเติมในฐานะศิลปินที่มาเป็นอาสาในงานนี้ถึง 2 ปีซ้อนว่า “ส่วนตัวผมชอบคอนเซ็ปต์ของงานอยู่แล้ว ‘คนไทยขอมือหน่อย’ ความหมายมันตรงตัวอยู่แล้ว มันเป็นหน้าที่ของคนไทยกับเรื่องอะไรก็ตามที่ทำเพื่อสังคม เพียงแค่ยื่นมือออกมาคนละนิดเดียวเท่านั้น คนละนิดละหน่อย 1 ล้านคน ก็ได้ 2 ล้านแรงแล้ว”

ด้าน “อาร์ม” พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์ พิธีกรรายการเด็กชื่อดัง ที่มาทำหน้าที่พิธีกรอาสา เผยว่า อาจเพราะภาพลักษณ์ของตัวเองซึ่งทำรายการเด็กมาตลอด 14 ปี จึงมีโอกาสทำงานอาสาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนเป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่เป็นครูศิลปะ พิธีกร สอนเวิร์คช็อป ไปจนถึงครูคณิตศาสตร์ ฯลฯ

”เวลาทุกคนมีค่าอยู่ที่ว่าทุกคนจะเอาเวลาของตัวเองมาใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างไรจริงๆ ถ้าเราตัดเอาเวลาไร้สาระของตัวเองมาให้กับคนอื่นได้บ้าง มันก็จะกลายเป็นการแบ่งเวลาให้เกิดประโยชน์กับคนอื่นได้บ้าง สำหรับงาน ‘คนไทยขอมือหน่อย’ ผมมองว่าเป็นงานที่ดีและน่าสนับสนุน เพราะเป็นโอกาสให้หน่วยงานเพื่อสังคมได้ออกมาแนะนำตัวในพื้นที่ๆ มีคนเดิน เพราะส่วนใหญ่งานเพื่อสังคมมักโดนจัดอยู่ในพื้นที่ๆ ที่เขาให้ฟรี บางครั้งก็เป็นพื้นที่ๆ ไม่ค่อยมีคนเดิน การจัดงานก็เหมือนละลายแม่น้ำ แม้ว่าคนที่ตั้งใจมาเดินงานนี้จริงๆ ยังไม่เยอะ แต่คนที่เดินผ่านมาแล้วได้เก็บอะไรกลับไป อย่างน้อยก็ได้ปลูกต้นอาสาต้นหนึ่งให้เขาได้รู้ว่างานแบบนี้ก็สำคัญ”

ขณะที่ “ถังเบียร์” ภูริวัชร์ ธีระชาติ ผู้คว้าแชมป์ AF 10 ที่มาร่วมเป็นอาสาในงานเดียวกันนี้ เป็นอีกคนหนึ่งที่ทำงานจิตอาสาอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะการนำอาหารไปแจกเด็กๆ ด้อยโอกาส กล่าวว่า สิ่งสำคัญของการเป็นจิตอาสา คือการได้เอื้อมมือเข้าไปช่วยเหลือ ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ให้เท่านั้น ในทางกลับกันจะรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์และมีความสุขกับการใช้ชีวิต

“การที่เราเป็นศิลปินมาช่วยงานการกุศล อย่างน้อยก็เป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับงานทางหนึ่ง อย่างเราได้ตำแหน่ง AF มีชื่อเสียงในระดับหนึ่งมาช่วยงานสังคม มันก็จะเป็นอีกกระบอกเสียงที่จะประชาสัมพันธ์ให้กับคนทั่วไปที่ไม่เคยรู้จักงานนี้มาก่อนให้รับทราบว่ามีโครงการดีๆ แบบนี้อยู่ตรงนี้ด้วย”

เช่นเดียวกับ “นัน” สุนันทา ยูรนิยม ศิลปินน้องใหม่จาก AF10 ที่มาเปิดมินิคอนเสิร์ตแบบไม่คิดค่าตัวในงานนี้เช่นกัน กล่าวว่า ส่วนตัวเคยทำงานอาสาให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญูอยู่พักหนึ่ง แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็มีความสุขมาก เพราะช่วงเวลาที่ได้ช่วยผู้อื่น ทำให้รู้สึกชีวิตมีคุณค่ามากขึ้น นับจากนั้นถ้ามีงานการกุศลเข้ามาก็จะไม่เกี่ยงว่างานนั้นได้เงินหรือไม่ เพราะรู้สึกว่าได้ให้จริงๆ ทำแล้วมีคนแฮปปี้ เราก็มีความสุข

“อาชีพศิลปินอาจดูเหมือนให้ความบันเทิง แต่บนความบันเทิงก็มีคุณค่าในตัวของมันได้ อย่างน้อยการที่เราทำงานการกุศลก็ถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม เมืองไทยเป็นสังคมน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า คนไทยได้ชื่อว่าเป็นคนที่ชอบทำบุญอันดับต้นๆ ของโลก สะท้อนออกมาด้วยโครงการต่างๆ ที่มีต่อปีเยอะมาก มีผู้ขาดแคลนก็จริงแต่ก็มีผู้ให้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเห็นบนโลกโซเชียล หรือจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยช่วยเหลือกัน สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมคือความสุขที่ไม่ได้อยู่ที่ความร่ำรวย แต่คือการที่เราให้ แล้วทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น”

“เชน” เตชินท์ ปิ่นชาตรี นักแสดงช่อง 3 เล่าว่า การเป็นจิตอาสามีส่วนในการสร้างสรรค์สังคม โดยเฉพาะสังคมไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นสังคมเกื้อกูล มีน้ำใจมอบให้แก่กัน ที่ผ่านมาเมืองไทยผ่านวิกฤติมามากมาย ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันทำความดี ก็จะสามารถผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคไปได้

“ผมเชื่อในพลังของจิตอาสานะครับ ผมเคยประสบเรื่องนี้มากับตัว เคยรถเสียอยู่ข้างถนนและได้รับความช่วยเหลือจากพลเมืองดีท่านหนึ่ง ผมเชื่อว่าสิ่งนี้อยู่ในคนไทยทุกคน ฉะนั้นถ้ามีงานการกุศลอะไรผ่านเข้ามาผมก็ยินดี เพราะเราเป็นคนไทยมีน้ำใจที่จะมอบให้กันอยู่แล้ว ส่วนตัวผมรักสุนัขอยู่แล้ว ล่าสุดผมกับเพื่อนอาสาร่วมกับมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย นำอาหารสุนัขหลายตันไปบริจาคที่ด่านกักกัน จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีสุนัขมากกว่า 100 ตัว”

ส่วน “ยีนส์” เกวลิน ศรีวรรณา นักแสดงช่อง 3 ที่แจ้งเกิดจากละครเรื่องธิดาแดนซ์ เผยว่า ที่ผ่านมาเคยช่วยงานอาสาแจกถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ตั้งแต่ปี 2554 มาจนถึงปีล่าสุด อีกทั้งยังเป็นฑูตอารยสถาปัตย์ โครงการให้ความช่วยเหลือผู้พิการทุกประเภทอีกด้วย จึงทำให้มีโอกาสทำกิจกรรมเพื่อสังคมค่อนข้างบ่อย ตั้งแต่ช่วยแพ็คของไปจนถึงออกคอนเสิร์ตให้ความบันเทิง

“ต้องยอมรับว่าปัจจุบันปัญหาสังคมมีเยอะมาก มีคนต้องการความช่วยเหลือมากกว่าคนให้ความช่วยเหลือ เพราะจากประสบการณ์ที่ไปเป็นอาสาช่วยเหลือผู้คน บางทีเวลาเราจะหยิบจับอะไร รู้สึกเหมือนไม่ทันไปหมด เพราะจำนวนผู้ที่รอรับความช่วยเหลือมีเยอะมาก ยีนส์ว่ายังมีคนไทยอยู่อีกมากไม่รู้ว่าจะไปเป็นอาสาที่ไหน และไม่รู้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สังคมดีได้แค่ไหน เพราะบางครั้งการจัดงานระดมอาสาหรืองานการกุศล มักจะไม่ค่อยเห็นเป็นอีเวนต์ ไม่ได้ออกสื่อ หรือจัดกันเฉพาะกลุ่ม ด้วยปัจจัยอะไรหลายอย่าง งานนี้จึงเป็นงานหนึ่งที่เราได้เห็นการรวมตัวขององค์กรสาธารณะมาอยู่ในพื้นที่เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าถึงมากขึ้น”

ไม่เพียงแต่ศิลปินรุ่นพี่เท่านั้น กลุ่มฑูตอารยสถาปัตย์ยังมีเยาวชนตัวน้อยร่วมอยู่ด้วย อย่าง “น้องวาว่า” ด.ญ.พิมพ์นเรศ ลำใย ซึ่งแม้จะมีอายุเพียง 4 ขวบแต่ก็สามารถท่องจำและเข้าใจการช่วยเหลือผู้พิการ อันเป็นแนวคิดหลักของโครงการอารยสถาปัตย์ได้อย่างคล่องแคล่ว น้องวาว่าขึ้นเวทีประชาสัมพันธ์โครงการได้อย่างน่ารัก สร้างความประทับใจให้กับผู้มาชมคอนเสิร์ต ด้าน “น้องจูน” จิดาภา จินดาวัฒน์ วัย 11 ขวบ ซึ่งเป็นฑูตอารยสถาปัตย์เช่นกัน เล่าถึงการเป็นอาสาให้กับโครงการอารยสถาปัตย์ว่า กิจกรรมส่วนใหญ่ของโครงการจะเน้นการช่วยเหลือผู้พิการและคนชรา ซึ่งปกติน้องจูนก็จะมาร่วมกิจกรรมรณรงค์ของโครงการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และช่วงปิดเทอม รู้สึกว่าเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์กับผู้อื่น

“เอิ๊ต” ภัทรวี ศรีสันติสุข ศิลปินน้องใหม่จากค่ายแกรมมี่ ที่มาเปิดคอนเสิร์ตหาเงินเข้าโครงการพิทักษ์ป่า มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร เล่าถึงความรู้สึกในการเป็นอาสาในงาน “คนไทยขอมือหน่อย ปี 2” ว่า ด้วยบรรยากาศของงานที่อยู่กลางเซ็นทรัลเวิลด์ ช่วยให้คนเข้าถึงกิจกรรมได้ง่ายขึ้น ทุกคนสามารถมาเป็นอาสาสมัครได้โดยไม่รู้สึกเคอะเขิน และสามารถช่วยเหลือในสิ่งที่ตัวเองถนัด เพราะหลายคนอยากจะช่วยเหลือคนอื่น แต่อาจจะไม่มีโอกาส

“เอิ๊ตว่าการเป็นจิตอาสามันสำคัญนะคะ เพราะปัญหาสังคมมีเต็มไปหมด จนบางปัญหาเอิ๊ตไม่รู้ว่ามันมีด้วยซ้ำ เราในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีก็รู้สึกว่าน่าจะเอาตัวเองมาใช้งานให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ ซึ่งการไม่รู้ว่ามีปัญหาก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าอาย คือปัญหามันเยอะจริงๆ พี่ๆ ที่เขาทำงานตรงนี้ก็คงทำงานเหนื่อยมากอยู่แล้ว นั่นยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า ยิ่งถ้าเราทำให้คนรู้ว่ามีปัญหานี้เท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น เพราะจะมีคนเข้ามาช่วยมากขึ้น และถ้ายิ่งเอาประเด็นนั้นๆ มาพูดในสังคม เมื่อมีคนสนใจก็จะเกิดการแก้ปัญหาตามมา”

ปิดท้ายที่ศิลปินอินดี้อย่าง พุฒิยศ ผลชีวิน นักร้องนำวงภูมิจิต ที่มาเป็นอาสาให้กับโครงการพิทักษ์ป่า มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร กล่าวว่า การเป็นจิตอาสาเป็นพื้นฐานของจิตใจ มันอาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แค่เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ เช่น พาคนแก่ข้ามถนน หรือลุกให้เด็กนั่งบนรถเมล์ การเป็นจิตอาสาเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกดอกไม้เล็กๆ ในใจ แค่เราทำความดี คนรอบข้างก็สามารถสัมผัสได้ อย่างน้อยก็เป็นการสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในใจคนและสังคม และควรเป็นสิ่งที่ทำทุกวัน

“ผมรู้สึกตื่นเต้นกับรูปแบบงาน ‘คนไทยขอมือหน่อย ปี 2’ เพราะสำหรับการรวบรวมองค์กรเพื่อสังคมมากมายมาไว้ในที่เดียวกันที่ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ๆ มีค่าเช่าแพงที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย มันแสดงให้เห็นถึงอำนาจการต่อรองบางอย่าง แม้บางคนที่มาชมงานอาจจะไม่รู้จักตัวงานเลย บางคนมาช้อปปิ้งที่ห้าง แต่การได้เดินเข้ามาในงานนี้เขาอาจจะได้เจอกับกิจกรรมที่เขาสนใจอยากจะทำ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำก็ได้ งานนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นจิตอาสา”

สามารถ “ลงแรง ลงขัน ลงสมอง” ทำความดีให้สังคมน่าอยู่ ด้วยการติดตามความเคลื่อนไหวงานเพื่อสังคมได้ที่www.facebook.com/KhonThaiFoundation หรือ www.khonthaifoundation.org/