“หอการค้าไทย-ตลท.” จับมือ “ภาคสังคม” เปิดโครงการ “ปลุกพลัง เปลี่ยนไทย” ชวนคนไทยลงมือทำ-กำหนดวิสัยทัศน์ชาติ
โครงการปลุกพลัง เปลี่ยนไทย (Inspiring Thailand) คือโครงการความร่วมมือขององค์กรภาคสังคม ภาคธุรกิจ ภาควิชาการ และภาครัฐ โดยมีความมุ่งหวังที่จะร่วมกันสร้างปฏิบัติการเพื่อปลุกพลัง สร้างสรรค์ประเทศไทย ให้น่าอยู่โดยมีองค์ประกอบโครงการ4 ส่วนได้แก่ (1) การระดมความคิดของคนไทยทั้งสังคมเพื่อสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ในการพัฒนาประเทศ ผ่านเวทีวิสัยทัศน์ 77 จังหวัด (2) การลงมือปฏิบัติการเปลี่ยนประเทศไทย หรือ “ร้อยโครงการเปลี่ยนประเทศ” (3)การสร้างผู้นำรุ่นใหม่ในการพัฒนาประเทศ จากทุกภาคส่วนของสังคมหรือ “โครงการเครือข่ายผู้นำแห่งอนาคต” และ (4)การสร้างค่านิยมคนไทยรุ่นใหม่ที่เป็นคนตื่นตัวและลงมือทำเพื่อส่วนรวมหรือ “โครงการสื่อสารและโครงการสร้าง Active Citizen”
ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี เปิดเผยว่า จากการเกิดขึ้นของโครงการ “ปลุกพลัง เปลี่ยนไทย” ที่ได้รับเสียงตอบรับจากคนทุกภาคส่วน ทั้งภาคธุรกิจ ภาคตลาดทุน ภาครัฐ และภาคสังคม ดังการประกาศพันธะสัญญาร่วมกันในงานคนไทยขอมือหน่อยที่ผ่านมานั้น ทำให้มีความหวังว่า ประเทศไทยปี 2558 จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
“การลงมือทำเรื่องใหญ่และยากให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยกระบวนการบริหารจัดการภาคสังคมมีอุดมการณ์ ขณะที่ภาคธุรกิจจะมีทักษะการจัดการ หากสองภาคส่วนร่วมมือกันได้ก็น่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง” ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศกล่าว
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า พร้อมจะเชิญชวนสมาชิกของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ และเครือข่าย คือ หอการค้าจังหวัดที่มีฐานสมาชิกจำนวนกว่า 30,000 ราย ทั่วประเทศ รวมทั้งเครือข่ายสมาคมการค้าและหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย อีกกว่า 30,000 ราย รวมแล้วมากกว่า 70,000 ราย ร่วมลงมือทำและขยายผลโครงการปลุกพลัง เปลี่ยนไทย กับภาคส่วนต่าง ๆ ด้วยการจัดการที่มีระบบ ตั้งแต่การร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงานหลักและสนับสนุนการทำงานโครงการเพื่อสังคมในเชิงพื้นที่
ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นอกเหนือจากการเป็นคณะทำงานโครงการปลุกพลังเปลี่ยนไทยแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อสร้างสังคมยั่งยืนด้วยการสร้างมาตรฐานการลงทุนที่ไม่เพียงหวังผลตอบแทนทางการเงิน แต่ยังคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลด้วย
เช่นเดียวกับนายสุรงค์ บูลกุล ประธานสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยบอกว่า ปัจจุบันความรับผิดชอบของสังคมไม่เพียงแต่การให้หรือการบริจาคแล้ว แต่องค์กรทุกองค์กรจำเป็นต้องตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนสร้างความสมดุลย์ระหว่างธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม จึงพร้อมเชิญชวนให้สมาชิกบริษัทจดทะเบียนไทยเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่าตลาดทุนไทยเป็นสมบัติของคนไทยทุกคน ดังนั้น แทนที่จะรักษาและส่งเสริมผลประโยชน์ของตลาดทุนเป็นที่ตั้ง สภาธุรกิจตลาดทุนจะมุ่งไปที่ประโยชน์ของสังคมเป็นหลักจึงยินดีเชื่อมต่อและขยายผลโครงการปลุกพลัง เปลี่ยนไทยไปยังสมาชิก นอกจากนั้นยังพร้อมสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศน์ตลาดทุนที่ยั่งยืน
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า สสส.จะอำนวยความสะดวกสนับสนุนการทำงานของทุกภาคีเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริง ที่ผ่านมาจะมีโครงการเพื่อสังคมดีๆ จากคนหลากหลายกลุ่มนำเสนอขอรับการสนับสนุนจาก สสส. รวมทั้งโครงการที่ สสส.ริเริ่มเอง ปีละหลายพันโครงการ มาปีนี้ ทุกโครงการจะถูกนำมาบูรณาการความคิดร่วมกัน แบ่งปันและเชื่อมต่อทรัพยากรร่วมกันกับโครงการปลุกพลัง เปลี่ยนไทย นับเป็นมิติใหม่ของการปรับขบวนงานเพื่อสังคมที่ใหญ่ที่สุดระดับประเทศที่เป็นอีกจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป ประธานมูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา เปิดเผยว่า มูลนิธิอาสาขับเคลื่อนงานสร้างวิสัยทัศน์ 77 เวทีระดับจังหวัด ผ่านเครื่องมือสื่อสารประเภทต่างๆ เพื่อนำมาประมวลผลสู่การสร้างวิสัยทัศน์ประเทศไทย 2575 ฉบับประชาชนภายในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยมีเวบไซต์โครงการ www.inspiringthailand.org เป็นแกนกลางในการเชื่อมช่องทางการสื่อสารอื่นๆ รายงานความเคลื่อนไหวและความก้าวหน้าโครงการ
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ร่วมกับมูลนิธิเพื่อคนไทยจัดทำ “โครงการออกเสียงออกแบบประเทศไทย” สำรวจความคิดเห็นคนไทยทั่วประเทศ 1 แสนคนหาคำตอบถึงภาพฝันประเทศไทยที่ประชาชนต้องการเห็น และสิ่งที่พวกเขาพร้อมจะเป็นผู้ลงมือทำ ไม่ใช่การเรียกร้องข้อเสนอ โดยผ่านเวบไซต์www.khonthaivoice.com และเป็นเครื่องมือหนึ่งของการระดมความเห็นคนไทยผ่านเวทีวิสัยทัศน์ 77 จังหวัดของโครงการปลุกพลังเปลี่ยนไทย รวมทั้งการให้สัมภาษณ์โดยตรงกับเจ้าหน้าที่ภาคสนาม เริ่มทดลองแบบสำรวจครั้งแรกในงานคนไทยขอมือหน่อย
ขณะที่นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อคนไทย เปิดเผยว่ามูลนิธิอาสาเป็นผู้ประสานงานในส่วน“ร้อยโครงการเปลี่ยนประเทศ” พร้อมเชื่อมต่อและบูรณาการทรัพยากร เช่น ทักษะความเชี่ยวชาญ เครือข่าย เงินทุน และศักยภาพขององค์กรที่มีความหลากหลายให้เข้ามาสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้ภาคสังคม
อนึ่ง องค์กรภาคีเริ่มต้นของโครงการปลุกพลัง เปลี่ยนประเทศไทย ณ มกราคม 2558 ประกอบด้วย หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ,สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ,มูลนิธิเพื่อคนไทย,มูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา,ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย,สภาธุรกิจตลาดทุนไทย,สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย,มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย,สำนักงานประสานการพัฒนาสังคมสุขภาวะ(สปพส.),คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,สถาบันเช้นจ์ ฟิวชัน ภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมถ์,องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) , ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย,สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย,ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ ,ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (ดีพเซ้าท์วอชท์) ,สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง ,มูลนิธิส่งเสริมการออกแบบอนาคตประเทศไทย ,ศูนย์นวัตกรรมสังคม วิทยาลัยโลกคดีศึกษา(GLab) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,มูลนิธิชุมชนไท,มูลนิธิยุวพัฒน์,มูลนิธิเอนไลฟ์ ,มูลนิธิสยามกัมมาจล ,บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด