• ภาคีเครือข่าย (องค์กรตัวกลาง องค์กรภาคสังคม)
• องค์กรและบุคคลทั่วไปที่ให้การสนับสนุน
• ผู้รับประโยชน์
• อาสาสมัคร
• พนักงานมูลนิธิฯ

• เพื่อผสานพลังองค์กรภาคสังคม ด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และสาธารณสุข ในการขับเคลื่อนและแก้ปัญหา สังคม
• เพื่อเป็นพื้นที่ในการสร้างความ ร่วมมือระหว่างภาคสังคมและ ภาคส่วนอื่นๆ ในการสร้างผลกระทบในวงกว้าง สร้างสังคมดีอย่างยั่งยืน

• มีผู้เข้าร่วมงานได้รับประโยชน์ 467 คน โดยเป็นภาคสังคม 288 คน, ภาคธุรกิจ 96 คน, บุคคลทั่วไป 60 คน และภาคสื่อ 23 คน
• มีคนทำงานขับเคลื่อนการพัฒนา สังคมได้รับการเติมสกิลผ่านกิจกรรม เวิร์คช็อปรวม 299 คน

โครงการร้อยพลังสร้างสังคมดี มูลนิธิเพื่อคนไทย ร่วมกับเทใจ, TIJ, Thai PBS, Thailand Investing For Impact, ChangeFusion, HAND, Learn Education และ สพบ.  ร่วมจัดงาน Good Society Day 2024 ในวันที่ วันศุกร์ที่ 22 และวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2567 ณ TIJ Common Ground สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นงานภาคสังคมที่ช่วยเติมไฟ เติมพลังใจ เพิ่มความรู้สร้างแรงบันดาลใจ ส่งต่อไอเดีย และชวนคนทำงานภาคสังคมมาพบปะกัน ร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในสังคมต่อยอดสิ่งใหม่ในการขับเคลื่อนสังคมไทยต่อไป โดยในงานมีกิจกรรมหลัก 4 ส่วน ได้แก่

• เวทีเสวนาและทอล์คจากวิทยากร 44 ท่าน ใน 22 หัวข้อ 
• นิทรรศการผลงานของโครงการภาคสังคมที่น่าสนใจ 40 โครงการ 
• เวิร์คช็อปเพื่อพัฒนาสกิลของภาคสังคม 11 หัวข้อ และ 
• Networking Dinner ร่วมรับประทานอาหารเย็นและพูดคุยต่อยอดงานภาคสังคม 

• สร้างเครือข่ายผู้นำการเปลี่ยน แปลงทางสังคมรุ่นใหม่ที่เข้มแข็ง 
• บ่มเพาะเสริมพลังและทักษะของ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางสังคมรุ่นใหม่ 
• เพื่อส่งเสริมงานเพื่อสังคมที่ผู้นำฯ ขับเคลื่อนอยู่ให้นำไปสู่การขยายผลลัพธ์ และกำหนดเป้าหมายร่วมในการขยายจำนวนผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางสังคมรุ่นใหม่

• Changemakers 26 คน ทำงานพัฒนาสังคมในด้านการศึกษา เด็กธรรมาภิบาล สิ่งแวดล้อม กลุ่มคน   เปราะบาง ฯลฯ
• Mentors 6 คน จาก 6 องค์กร ร่วมเรียนรู้การวิเคราะห์ปัญหาและออกแบบแนวทางแก้ไขปัญหาสังคมร่วมกันผ่านกระบวนการ future foresight เกิดวงพูดคุย/แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง sector ที่สามารถต่อยอดเป็นกิจกรรมในปี 2568 ในการสร้างพลังร่วมของภาคสังคม

ด้วยมูลนิธิเพื่อ “คนไทย” และภาคีเครือข่าย อันได้แก่ สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ ไทย(TDRI)และสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม Retreat Program 2024 ในหัวข้อ “Changemakers for Good Society – EP.1 Scaling the Impacts” ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรม Raya Heritage จังหวัดเชียงใหม่โดยผู้เข้าร่วมในครั้งนี้มีทั้งผู้นำที่ทำงานขับ เคลื่อนการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในประเด็นด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และธรรมาภิบาล รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆโดยผู้เข้าร่วมทุกท่านได้รู้จักและสร้างสัมพันธ์กับเครือข่ายได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เสริมทักษะ และสร้างกระบวนการทำงานร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การสร้างการเปลี่ยนแปลงของสังคมต่อไป

• เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาในพื้นที่ห่างไกลให้เข้าถึงทรัพยากรที่ จำเป็นต่อการเรียนรู้ดิจิทัลทั้งใน ปัจจุบันและอนาคต
• เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการ ศึกษาและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึง การศึกษาที่มีคุณภาพของเด็กไทย

• มีโรงเรียนใหม่ได้รับการสนับสนุนห้อง เรียนดิจิทัล MDS เพิ่ม 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ่อพลอยรัชดาภิเษก โรงเรียนปากแพรกวิทยาคม และโรงเรียนบ้านทุ่งมน มีนักเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 692 คน
• สามารถสร้างโอกาสให้เด็กเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ จำนวนกว่า 4,000 คน ใน 6 โรงเรียน

ธนาคารยูโอบีประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาที่เป็นโอกาสของการต่อยอดและยกระดับการเรียนรู้เดินหน้าสานต่อโครงการ UOB My Digital Space (MDS) เป็นปีที่ 2 ซึ่งมุ่งสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาของนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ด้วยการมอบเครื่องมือการเรียนรู้ และทักษะดิจิทัล เพื่อเชื่อมโยงเด็กสู่การเรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัล ภายใต้ “UOB Heartbeat” โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มธนาคารยูโอบี ที่เน้น 3 ด้านหลัก คือ ศิลปะ เยาวชน และการศึกษา โครงการ MDS มีแผนดำเนินงานระยะยาวร่วมกับโครงการร้อยพลังการศึกษา เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษา ด้วยการสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบบครบชุด พร้อมหลักสูตรดิจิทัล วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ โดยเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปีการศึกษา 2565 ได้ส่งมอบห้องเรียนแล้วจำนวน 3 โรงเรียน และในปีการศึกษา 2566 ได้สนับสนุนห้องเรียนเพิ่มให้อีก 3 โรงเรียนใหม่โดยได้จัดกิจกรรมส่งมอบห้องเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่โรงเรียนบ่อพลอยรัชดาภิเษก จังหวัดกาญจนบุรี โรงเรียนปากแพรกวิทยาคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี โรงเรียนบ้านทุ่งมน จังหวัดขอนแก่น พร้อมเติมหลักสูตรการเงินออนไลน์และแพลตฟอร์มแนะแนว achieve รวมถึงขยายผลความร่วมมือสนับสนุนครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนที่ขาดแคลนครูรุ่นใหม่อีกด้วย

• เพื่อเป็นเวทีให้คุณครูและนักเรียนที่ร่วมโครงการฯในรุ่นที่ 3 ปี การศึกษา 2566 ได้แบ่งปันประสบการณ์ ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญ ของห้องเรียนการเงิน
• เพื่อตอกย้ำความร่วมมือ  ในการขับเคลื่อนให้เกิดความยั่งยืนในสังคมไทย ผ่านการให้ทักษะความรู้ทางการ เงิน

• มีโรงเรียนเข้าร่วม 10 โรงเรียน มีนักเรียนร่วมรับมอบเกียรติบัตร 18 คน และมีคุณครู 14 คน
• ในปีการศึกษา 2566 มีโรงเรียนเครือข่ายร้อยพลังการศึกษา เข้าร่วม โครงการฯ จำนวน 24 โรงเรียน และมีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์จบหลักสูตรจำนวน 1,770 คน
• สามารถช่วยสร้างทักษะความรู้ทางการเงินที่ถูกต้องให้นักเรียนจำนวนกว่า 4,000 คน และมีโรงเรียนเข้าร่วม โครงการฯ จำนวน 63 โรงเรียน นับตั้งแต่ปี 2564 – 2566

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมกับโครงการร้อยพลังการศึกษา มุ่งมั่นที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กไทยมีอนาคตทางการเงินที่มั่นคง ผ่านการสนับสนุนความรู้ในหลักสูตรการเงิน UOB Money 101: Teen Edition วัยรุ่นเก่งการเงิน    อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี 2564      โดยการส่งเสริมทักษะความรู้และภูมิคุ้มกันด้านการเงิน ให้กับนักเรียนในโรงเรียนเครือข่ายร้อยพลังการศึกษาให้สามารถวางแผนอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับคุณครูและนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ รุ่นที่ 3 จึงได้จัดพิธีมอบเกียรติบัตรหลักสูตร UOB Money 101: Teen Edition วัยรุ่นเก่ง   การเงิน ปีการศึกษา 2566 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567  ณ ธนาคารยูโอบี พลาซ่า พร้อมเปิดเวทีเสวนาแบ่งปันประสบการณ์จากครู นักเรียน และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน แสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือในการส่งเสริมทักษะ ความรู้ทางการเงิน นับได้ว่าเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ ให้กับเด็กนักเรียนให้สามารถนำไปประยุกตฺใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่มีวันสิ้นสุด

• เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่าง พนักงานและพันธมิตรธนาคาร ยูโอบีในการระดมทุนช่วยด้านการศึกษาเพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาส ความเท่าเทียมทางการศึกษาอย่างยั่งยืน

• สามารถสร้างความร่วมมือระหว่างพนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ และบุคคลทั่วไป มาร่วมบริจาคจำนวน 3,185 คน ระดมเงินบริจาคได้ 5,137,074 บาท
• สามารถสร้างโอกาสทางการศึกษา ให้เด็กไทยในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงเครื่องมือและหลักสูตรดิจิทัล

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ดำเนินการจัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคประจำปี “2024 UOB Heartbeat Run” เพื่อสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาของเด็กไทย ด้วยการเชิญชวนผู้บริหาร พนักงาน ครอบครัวพนักงาน รวมถึงลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมอาสาเพื่อสังคมที่กลุ่มธนาคารยูโอบีจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีใน 18 ประเทศทั่วโลก และปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 14 ในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าหมายการระดมทุนอยู่ที่ 4,500,000 บาท โดยทุกการบริจาคจะได้รับของที่ระลึกเป็นเสื้อ กระเป๋าหูรูด และกระบอกน้ำ ตามยอดเงินบริจาค นอกจากการสร้างความร่วมมือกันภายในแล้ว ธนาคารยูโอบียังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างการมีส่วนร่วมกับบุคคลทั่วไปด้วย จึงเปิดการระดมทุนผ่านแคมเปญ UOB x Limited Education พร้อมกับสื่อสารปัญหาการศึกษาผ่านของที่ระลึก กระเป๋าคลัช กระเป๋าแคนวาส กระเป๋าพับได้ และเสื้อ ซึ่งออกแบบโดยศิลปินที่ชนะการประกวดของ UOB ตลอดระยะเวลาระดมทุน ทางยูโอบีได้จัดกิจกรรมสร้างความร่วมมือ ดังนี้ งาน UOB Mini Event จัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม ที่ ไบเทค บางนา ยูโอบี พลาซ่า และยูโอบีเพชรเกษม งานวิ่ง UOB Heartbeat Run วันที่ 22 กันยายน 2567 จัดขึ้นที่สวนวชิรเบญจทัศสามารระดมเงินบริจาคได้ทั้งสิ้น 5,137,074 บาท โดยจะนำไปสนับสนุนโครงการ UOB My Digital Space

• เพื่อเสริมทักษะความรู้ทางการเงินที่ถูกต้องและสร้างภูมิคุ้มกันด้าน การเงินให้กับนักเรียนและคุณครู
• เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทย ให้มีความรู้เรื่องการเงิน และสามารถวางแผนอนาคตได้ อย่างมีประสิทธิภาพ

• มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ รุ่น 4 จำนวน 26 โรงเรียน มีนักเรียนผ่านเกณฑ์จบหลักสูตร 1,970 คน ได้ดำเนินการจัดประกวด Money Coach Junior และมอบเกียรติบัตรฯ ในวันที่ 28 ก.พ. 2568
• มีโรงเรียนสมัครเข้าร่วมการประกวดจำนวน 10 โรงเรียน และจำนวนทีมทั้งหมด 15 ทีม

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องการปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนเข้าใจถึงปัญหาของเรื่องการเงินตั้งแต่วัยเด็ก ที่ไม่เพียงช่วยสร้างจิตสำนึกแต่ยังเป็นการวางรากฐานให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมรับมือกับปัญหาในอนาคตได้ ธนาคารยูโอบีจึงร่วมมือกับโครงการร้อยพลังการศึกษาดำเนินโครงการ UOB Money 101: Teen Edition วัยรุ่นเก่งการเงิน ต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 4 ในการสนับสนุนหลักสูตรการเงินออนไลน์ เพื่อสร้างพื้นฐานความรู้ทางการเงินให้แก่เด็กและเยาวชนให้สามารถจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงทางการเงิน พร้อมทั้งสร้างความมั่นคงในชีวิตได้ในระยะยาว โดยโครงการฯ เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี 2564 มีนักเรียนจบหลักสูตรเพียง 884 คน จาก 18 โรงเรียน จนถึงปัจจุบันมีนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ และได้รับการปลูกฝังทักษะทางการเงินที่ถูกต้องแล้วจำนวนกว่า 5,825 คน จาก 51 โรงเรียนใน 29 จังหวัด เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่เด็กและเยาวชนสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตได้จริง ทำให้มีการต่อยอดโครงการไปสู่การประกวด Money Coach Junior Contest 2024 โดยมุ่งหวังให้เด็กนักเรียนที่เคยเข้าร่วมโครงการมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านการเงินและสามารถนำความรู้ไปเผยแพร่สู่คนรอบตัวและชุมชนได้อย่างยั่งยืน

• เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษา อย่างเท่าเทียม
• เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ เด็กไทยในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึง ทรัพยากรที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล

มีโรงเรียนได้รับการสนับสนุนห้องเรียนดิจิทัล พร้อมเครื่องมือพัฒนาคุณภาพการ ศึกษา จำนวน 2 โรงเรียน มีนักเรียนได้รับประโยชน์เพิ่มจำนวน 703 คน โรงเรียนสามารถสร้างความร่วมมือระดมทุนเพื่อเป็นเงินสนับสนุนการใช้ เครื่องมืออย่างต่อเนื่องได้ ผ่านกระบวนการ PSIA x Co-pay

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมกับโครงการร้อยพลังการศึกษา ดำเนินโครงการ UOB My Digital Space ในการสร้างห้องเรียนรู้ดิจิทัลที่ประกอบไปด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ หลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล การส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพคุณครูและนักเรียน โดยดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี 2565 และในปี 2567 มีโรงเรียนในเครือข่ายแล้วจำนวน 8 โรงเรียน ใน 8 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทย ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลเกาะจันทน์ จังหวัดชลบุรี / โรงเรียนถ้ำปินวิทยาคม จังหวัดพะเยา / โรงเรียนเสด็จวนชยางค์กูลวิทยา จังหวัดลำปาง / โรงเรียนบ่อพลอยรัชดาภิเษก จังหวัดกาญจนบุรี / โรงเรียนปากแพรกวิทยาคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี / โรงเรียนบ้านทุ่งมน จังหวัดขอนแก่น / โรงเรียนศรีวินิตวิทยาคม จังหวัดสิงห์บุรี / โรงเรียนพิบูลย์รักษ์พิทยา จังหวัดอุดรธานี มีนักเรียนได้รับประโยชน์กว่า 5,000 คน นับได้ว่าเป็นการลดช่องว่างทางการศึกษาด้วยเครื่องมือ ดิจิทัลโดยสามารถยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของเด็กขาด โอกาสในพื้นที่ห่างไกลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่าง เห็นได้ชัดพร้อมทั้งส่งเสริมการทำงานแบบมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เพื่อร่วมกันพัฒนานักเรียน ด้วยการเข้าไปพัฒนาทักษะให้กับบุคลากร ผู้มีส่วนได้เสียในชุมชนของโรงเรียน และภาคี ให้สามารถต่อยอดโครงการหรือกิจกรรมที่เป็นแนวทางช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนานักเรียนได้อย่างต่อเนื่อง

• เพื่อสื่อสารถึงโครงการร้อยพลังการศึกษาให้เกิดการรับรู้ในกว้างมาก ขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือกับ Influencerในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของโครงการ

• โครงการเรียนจบได้เพราะใครคนหนึ่ง ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับสื่ออินฟลูเอนเซอร์ เพื่อประชาสัมพันธ์แคมเปญ Influencer 3 คนได้ร่วมผลิตสื่อในโครงการเรียนจบได้เพราะใครคนหนึ่ง และเผยแพร่คลิปแล้ว โดยมียอดไลค์เฉลี่ย 100 ไลค์สามารถสร้างการรับรู้โครงการทุนการ ศึกษาและการดูแลประคับประคองให้ กลุ่ม Influencer ผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Tiktok และผู้เข้าร่วมงาน Thailand Influencer Award 2024 ได้รู้จักมากขึ้น 

บริษัท เทลสกอร์ จำกัด (Tellscore) หนึ่งในผู้นำแพลตฟอร์ม Influencer Marketing ร่วมกับโครงการร้อยพลังสร้างสังคมดี มูลนิธิเพื่อคนไทย จัดกิจกรรม Help You Help Me ภายใต้นโยบาย Influencer for Change เพื่อรับสื่ออินฟลูเอนเซอร์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยทางอินฟลูเอนเซอร์จะเป็นผู้ทำคอนเทนต์เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์โครงการของหน่วยงานเพื่อสังคม จำนวน 6 โครงการ ร่วมถึงได้รับโอกาสเข้าร่วมงานเป็น Finalist ขึ้นรับรางวัลในงาน Thailand Influencer Awards 2024 ที่ทาง Tellscore จัดขึ้นทุกปีและในปี 2567 โครงการร้อยพลังการศึกษา และภาคีเครือข่ายได้ร่วมนำเสนอโครงการเพื่อรับสื่อ  อินฟลู เอนเซอร์ 3 โครงการ ได้แก่โครงการ Limited Education โดย โครงการร้อยพลังสร้างสังคมดีโครงการช่วยเด็กไทยตามหา อาชีพที่ใช่ ชีวิตที่ชอบ โดย โครงการร้อยพลังการศึกษา และ a-chieve โครงการเรียนจบได้เพราะใครคนหนึ่ง โดย ทุนการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ โดย โครงการเรียนจบได้เพราะใครคนหนึ่ง โดย ทุนการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ เป็นหนึ่งใน 7 องค์กรภาคสังคมที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการดังกล่าว โดยได้รับการสนับสนุนจากอินฟลูเอนเซอร์ 3 ราย ในการช่วยประชาสัมพันธ์โครงการทุนการศึกษา “ส่งน้องเรียน สร้างเด็กดีแล้ว” เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับคนในสังคมที่กว้างมากขึ้นนอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้รับรางวัล Best Social Enterprise Influencer Campaign 2024 จากงาน Thailand Influencer Award 2024 by Tellscore เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ณ MCC HALL The Mall Lifestore บางกะปิ รวมถึงได้โอกาสในการตั้งบูธประชาสัมพันธ์โครงการทุน การศึกษาภายในงาน

• เพื่อเป็นช่องทางสร้างการมีส่วน ร่วมในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ที่ทุกคนในสังคมมีส่วนร่วมได้เพื่อ ระดมทุนสนับสนุนการพัฒนาด้าน โภชนาการที่ครบถ้วนให้เด็ก นักเรียน ผ่านโครงการ FOOD FOR GOOD มูลนิธิยุวพัฒน์

• สามารถระดมเงินบริจาคได้รวม 63,985 บาท หลังหักค่าใช้แล้วจะได้เป็นเงินบริจาคทั้งสิ้น 43,485 บาท
• สามารถสร้างการรับรู้ช่องทางการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาที่ทุกคนใน สังคมมีส่วนร่วมได้ในกลไกของ Limited Education ร่วมกับกลุ่มแฟนคลับศิลปิน
• โปรเจกต์ พีพี กฤษฏ์ ต่อยอดการสนับสนุนการพัฒนาด้านโภชนาการ ด้วยการลงพื้นที่และทำกิจกรรมในโรงเรียนร่วมกับ FOOD FOR GOOD 

กลุ่มแฟนคลับศิลปินพีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ภายใต้ชื่อ “โปรเจกต์ พีพี กฤษฏ์” ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และต้องการช่วยเหลือการศึกษาไทยให้ดีขึ้น โดยเฉพาะด้านโภชนาการ จึงร่วมกับโครงการร้อยพลังการศึกษา จัดกิจกรรมระดมทุนออนไลน์แคมเปญ “Colour to Table” ภายใต้ Limited Education โดยโปรเจกต์ พีพี กฤษฏ์ ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนกลุ่มแฟนคลับศิลปินเข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคมในช่วงวันเกิดศิลปิน พีพี กฤษฏ์ ด้วยการบริจาคเงินพร้อมรับของที่ระลึก โดยทุกยอดบริจาค 555 บาท ผู้บริจาคจะได้รับของที่ระลึกเป็นชุด Painting พร้อมถุงผ้าหูรูด และจะมอบเงินบริจาคหลังหักค่าใช้จ่ายให้แก่โครงการชุดละ 350 บาท ระยะเวลาดำเนินกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. – 3 พ.ค. 67 หลังจากสิ้นสุดกิจกรรม ทาง โปรเจกต์ พีพี กฤษฏ์ จะดำเนินการสรุปยอดบริจาคทั้งหมดพร้อมจัดส่งชุดของที่ระลึกให้แก่ผู้บริจาค และนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้โครงการร้อยพลังการศึกษา เพื่อนำไปเป็นทุนสนับสนุนโครงการ FOOD FOR GOOD

• เพื่อระดมทุนสนับสนุนโครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์เพื่อสร้างการรับรู้ปัญหาการศึกษาที่ทุกคนในสังคมมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงได้

• หลังจบแคมเปญสามารถระดมทุนได้ 20,000 บาท
• โรงเรียนในเครือข่ายร้อยพลังการศึกษา ได้รับการสนับสนุนและพัฒนาเครื่องมือต่างๆและนักเรียนขาดโอกาสได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ

แคมเปญ “Full of  Love” โดย น้องณโม HappyTongue by namo และ เชฟ Daniel จาก Pridi Cacao Craft Chocolate ได้ร่วมผลิตและจัดจำหน่ายขนม Chocolate Bon Bon โดยมีแนวคิดว่า ต้องการระดมทุนเงินไปช่วยสนับสนุนเด็กและเยาวชนขาด โอกาส ให้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพให้ดีขึ้น โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่ายช็อคโกแลต Bon Bon จะมอบให้โครงการร้อยพลังการศึกษา ซึ่งช็อคโกแลต  1 กล่อง จะมีจำนวน 8 รสชาติ ราคาขายกล่องละ 590 บาท หรือจำหน่ายในราคาชิ้นละ 74 บาท และร่วมบริจาคเงินให้โครงการในทุกชิ้นที่จำหน่ายได้ชิ้นละ 4 บาท กำหนดจัดจำหน่ายระหว่าง วันที่ 3 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่  Instagram และ Facebook : HappyTongue By Namo 

• เพื่อให้นักศึกษาได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำและ สร้างโอกาสทางการศึกษาอย่าง ยั่งยืนเพื่อระดมทุนสนับสนุนการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านโครงการร้อยพลังการศึกษา

• รายได้ทั้งหมด จำนวน 4,200 บาท มอบให้กับโครงการร้อยพลังการศึกษา เพื่อเป็นทุนสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
• สามารถสร้างความร่วมมือร่วมกับนักศึกษาในการระดมทุนเพื่อโครงการร้อยพลังการศึกษาได้
• สามารถสร้างการรับรู้ปัญหาการศึกษาที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้ผ่านการทำกิจกรรมของนักศึกษาให้เป็นรับรู้ได้กว้างขึ้น

คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้จัดการเรียนการสอนวิชา EPM504 กลยุทธ์เศรษฐกิจดิจิทัลสำหรับเจ้าของธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้นักศึกษามีแนวคิดพร้อมลงมือปฏิบัติในการเริ่มต้นทำธุรกิจเพื่อสังคม ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ดิจิตอลในการสร้างความตื่นรู้ และให้บุคคลทั่วไปหันมาใส่ใจกับ สังคมและสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดกิจกรรม/โครงการ “เรียนรู้ และปฏิบัติจริง เพื่อสังคม” เพื่อให้นักศึกษาจัดทำกิจกรรม หารายได้ /สิ่งของบริจาค เพื่อนำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศล ที่กลุ่มนักศึกษามีความสนใจ โดยนักศึกษาบูรพา ชนะสิทธิ์ และเพื่อนได้ดำเนินกิจกรรมระดมทุนผ่านการทำกิจกรรมจำหน่ายน้ำ รับตัดต่อวีดีโอ รับหิ้วสินค้า และรับสอนออกกำลังกาย  ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2567

• เพื่อสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการเรียนรู้ผ่านอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์
• เพื่อช่วยให้โรงเรียนมีอุปกรณ์สำหรับจัดการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น

• โรงเรียนมีอุปกรณ์สำหรับจัดการเรียนการสอนในรูปแบบดิจิทัล โดยไม่ต้องซื้อใหม
• สามารถช่วยเสริมสร้างทักษะให้เด็กเข้าถึงระบบเทคโนโลยีได้

บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องการเรียนรู้ผ่านระบบเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการเสริมสร้างทักษะที่สำคัญให้กับเด็กและเยาวชน ในโลกยุคปัจจุบัน จึงร่วมกับบริษัท เติมเนเจอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ดำเนินการบริจาคทีวี ยี่ห้อ SHARP รุ่น 2T – C40EF2X LED BACKLIGHT TV ขนาดหน้าจอกว้าง 40 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ให้โครงการร้อยพลังการศึกษา เพื่อนำไปมอบให้โรงเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์สำหรับ     จัด การเรียนการสอน โดยโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกคือ โรงเรียนบ้านสบเตี๊ยะ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 คุณพรศักดิ์ สินคณารักษ์ และคุณปัทมา ศรีอริยนันท์ ตัวแทนจากทั้ง 2 บริษัท ร่วมส่งมอบเครื่องทีวีให้โครงการ นับได้ว่าเป็นการมอบโอกาสให้เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนอุปกรณ์ ได้มีโอกาสเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ และช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กไทยอย่างยั่งยืน

• เพื่อมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ขาดโอกาส ได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ
• เพื่อสนับสนุนโครงการ FOOD FOR GOOD ในการเสริมองค์ความรู้และสร้าง กลไกในการจัดการอาหารและโภชนาการในเด็ก

• มีนักเรียนขาดโอกาสได้รับทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า
• มีบุคลากรในโรงเรียนประถมจำนวน 2 แห่ง ได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ และมีกลไกในการจัดการโภชนาการสำหรับเด็ก

บริษัท บาเซล แอดวานซ์ โพลีโอลิฟินซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ธุรกิจผู้ผลิตเม็ดพลาสติก ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาการศึกษา และมีความต้องช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ กับเด็กไทยจึงมอบเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโครงการร้อยพลังการศึกษา จำนวน 525,000 บาท โดยเงินบริจาคได้ถูดจัดสรรเข้า 2 โครงการ ดังนี้

• โครงการทุนการศึกษา ยอดเงินบริจาค 245,000 บาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาสนับสนุนนักเรียนขาด โอกาสในสายสามัญและสายอาชีพ
• โครงการ FOOD FOR GOOD ยอดเงินบริจาค 280,000 บาท เพื่อเป็นทุนสนับสนุนงานพัฒนาโภชนาการ ในโรงเรียนจำนวน 2 แห่ง

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ทีมผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ได้ส่งมอบเงินบริจาคและถ่ายรูปรับมอบร่วมกับโครงการร้อยพลังการศึกษา นับได้ว่า เป็นการสร้างความร่วมมือในการช่วยลดปัญหาความ เหลื่อมล้ำทางการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก ไทยอย่างรอบด้านที่เกิดขึ้นได้จริง

• เพื่อมอบทุนการศึกษาให้กับ นักเรียนที่ขาดโอกาส ได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ
• เพื่อสร้างความร่วมมือในการสนับสนุนทุนการเรียนต่อสายอาชีพมากขึ้น

• มีนักเรียนขาดโอกาสได้รับทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบชั้น ปวช.3 จำนวน 6 คน 

บริษัท เฉียว เป่า เมททัล จำกัด ผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับรีดลวดเหล็กที่ให้ความสำคัญเรื่อง การศึกษาและต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดความ เหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเฉพาะสายอาชีพ ซึ่งจะเป็นแรงงานสำคัญในอนาคตของตลาดแรงงานไทย จึงจัดกิจกรรมระดมทุนและเชิญชวนพนักงานภายในบริษัท ร่วมบริจาคเงิน สามารถระดมทุนได้ 155,000 บาท และนำเงินทั้งหมดมอบให้โครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ เพื่อนำไปสนับสนุนโครงการทุนการศึกษา “ส่งน้องเรียน สร้างเด็กดี” ให้น้อง ๆ นักเรียนขาดโอกาสสายอาชีวศึกษาหรือสายอาชีพได้เรียนจนจบชั้นปวช. 3 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 ทางตัวแทนจากบริษัทได้นำเงินบริจาคมามอบให้โครงการ และถ่ายรูปรับมอบโดยเงินบริจาคที่ได้รับสามารถสร้างโอกาสให้เด็กขาดโอกาสได้เรียนต่อสายอาชีพนับเป็นอีกเส้นทางอาชีพที่ส่งผลให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง และมีโอกาสก้าวสู่ตลาดแรงงานได้ในอนาคต

• เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ในการช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดแคลนให้มีอุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ
• เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม

• มีโรงเรียนเครือข่ายได้รับอุปกรณ์หูฟัง Galaxy Buds Live จำนวน 16 โรงเรียน
• มีโรงเรียนเครือข่ายได้รับโทรทัศน์ขนาด 85 นิ้ว จำนวน 2 โรงเรียน

บริษัท ไทย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันเป็นยุคเทคโนโลยีที่เด็กส่วนใหญ่ต้องเรียนผ่านอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ แต่ยังมีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ขาดแคลนอุปกรณ์ในการเรียน ด้วยเหตุนี้ บริษัท ไทย ซัมซุงจึงได้ร่วมทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ มูลนิธิยุวพัฒน์ เพื่อบริจาคสินค้าตัวอย่างภายใต้แบรนด์ Samsung อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หูฟัง เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าที่อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งานให้กับโรงเรียนในเครือข่ายร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปีต่อเนื่อง (ปี 2567 – 2569) 

ในปี 2567 บริษัท ไทย ซัมซุง ได้ร่วมสนับสนุนและบริจาคหูฟัง Samsung รุ่น Galaxy Buds Live จำนวน 523 ชุด และโทรทัศน์ขนาด 85 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง ให้โรงเรียนนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษผ่านระบบ Winner English และรายวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ผ่านระบบ Learn Education  ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการส่งมอบอุปกรณ์ให้โรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกบริจาค

• เพื่อระดมทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนทุนยุวพัฒน์สายสามัญได้ เรียนต่อในระดับชั้น ม.1 – ม.6 จำนวน 1,000 คน

• ระดมเงินบริจาครวม 4,179,574 บาท โดยหลังหักค่าดำเนินการ เป็นเงินบริจาค 3,688,949.4 บาท เป็นเงินทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนสายสามัญที่ขาดโอกาสจำนวน 527 คน

เทใจดอทคอม หนึ่งในภาคีเครือข่ายมูลนิธิเพื่อ “คนไทย” ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกลไกความร่วมมือการลงทุนเพื่อสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมีส่วนร่วมกับประชาชนทั่วไปในการสนับสนุนทุนเงินให้โครงการเพื่อสังคมที่สร้างผลลัพธ์ให้เกิดขึ้นจริงและขยายผลได้ ปัจจุบันมีโครงการจำนวนมากที่ระดมทุนอยู่บนแพลตฟอร์มเทใจมูลนิธิยุวพัฒน์ร่วมกับเทใจดอทคอม ดำเนินโครงการ “ทุนให้ไปต่อกับมูลนิธิยุวพัฒน์” โดยมีเป้าหมายการระดมทุนตลอดปี 2567 จำนวน 7,000,000 บาท เพื่อนำเงินบริจาคที่ได้รับไปสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับ นักเรียนทุนยุวพัฒน์สายสามัญจำนวน 1,000 คน คิดเป็น 7,000 บาท/คน/ปี เพื่อใช้เป็นทุนในการศึกษา และเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต อาทิ ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าชุดนักเรียน ค่าอาหารกลางวัน ค่ากิจกรรม ค่าเดินทาง ฯลฯ ตลอดระยะเวลา 1 ปี โดยโครงการนี้ผ่านการพิจารณาคัดเลือก และประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์เทใจดอทคอม เพื่อให้คนทั่วไปได้รับทราบ รวมถึงเป็นช่องทางในการรับบริจาคเรียบร้อยแล้ว ในเดือนมิถุนายน โครงการนี้ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ในโครงการที่ได้เข้าร่วมโครงการ Thaivivat Charity มากกว่าประกันภัย คืนให้สู่สังคมของบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับเทใจดอทคอม ซึ่งบริษัทฯ จะบริจาคเงินจำนวน 5% ของเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท/กรมธรรม์ ให้กับโครงการในนามของผู้เอาประกันภัย ในระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2570 โดยวันที่ 8 ตุลาคม 2567 มูลนิธิยุวพัฒน์ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “Thaivivat Caring Forward คิดเผื่อเพื่อสังคม” จัดขึ้นโดยประกันภัยไทยวิวัฒน์ ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวให้เป็นที่รับรู้ อย่างกว้างขวาง

เพื่อระดมทุนให้กับเด็กนักเรียนมัธยม 15,000 คนใน 100 โรงเรียนเครือข่ายร้อยพลังการศึกษาที่ขาดแคลนครูแนะแนวได้ใช้แพลตฟอร์มการแนะแนวและเครื่องมือ a-chieve

จากเป้าหมาย 1,800,000 บาทสามารถระดมเงินบริจาคตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม – ธันวาคม 67 รวม 100,650 บาท

ธุรกิจเพื่อสังคม a-chieve ภายใต้การทำงานของโครงการร้อยพลังการศึกษา ร่วมกับเทใจดอทคอม หนึ่งในภาคีเครือข่ายที่มีความเชี่ยวชาญด้านกลไก ความร่วมมือการลงทุนเพื่อสังคม ร่วมกันดำเนินโครงการ “ช่วยเด็กไทยตามหา อาชีพที่ใช่ ชีวิตที่ชอบ” ตั้งเป้าหมายการระดมทุน จำนวน 1,800,000 บาท ในช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน 2567 เพื่อนำเงินบริจาคที่ได้รับไปสนับสนุนเด็กระดับชั้น มัธยมศึกษา 15,000 คนใน 100 โรงเรียนเครือข่ายที่ขาดแคลนครูแนะแนว ได้ใช้แพลตฟอร์มการแนะแนวและเครื่องมือ a-chieve ระยะเวลา 1 ปี เพื่อเป็นตัวช่วยเด็กได้ทำความรู้จักตัวเองอย่างรอบด้าน รู้จักอาชีพรอบตัว ช่วยให้เกิดความฝัน มีการวางแผนชีวิต จนพัฒนาเป็นแรงจูงใจในการเรียนและการดำเนินชีวิต ไปสู่อาชีพที่ใช่ที่ตรงกับความสนใจ ความถนัด เงื่อนไขชีวิต และบริบทสังคมของตนเอง โดยโครงการนี้ผ่านการพิจารณาคัดเลือก และประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์เทใจดอทคอม เพื่อให้คนทั่วไปได้รับทราบ รวมถึงเป็นช่องทางในการรับบริจาคเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ โครงการร้อยพลังการศึกษา ธุรกิจเพื่อสังคม a-chieve และเทใจดอทคอมยังร่วมกันผลิตสื่อเพื่อกระตุ้นยอดบริจาค ไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการ การถ่ายทำวิดีโอ ฯลฯ รวมถึงการประชาสัมพันธ์การบริจาคในโอกาสพิเศษ เช่น ทำบุญวันเกิด บริจาคปลายปีลดหย่อนภาษี เป็นต้น

• เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับปัญหาการศึกษาในโรงเรียนที่ขาดโอกาสและทรัพยากร โดยเฉพาะด้านคุณภาพการศึกษา ในรายวิชาภาษาอังกฤษ 
• เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำองค์กรต่างๆ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา คุณภาพการศึกษาโดยเน้นกา รสร้างความเปลี่ยนแปลงดิจิทัลและพัฒนานวัตกรรม

• ผู้เข้าร่วม 2  ทีมได้นำเสนอแนวทางพัฒนาระบบ Collaboratve Classroom ของระบบ Winner English ด้วยการสร้างแรงจูงใจให้ผู้มีส่วนได้เสียให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียน
• ผู้เข้าร่วม 2 ทีมขยายผลการสนับสนุน ด้วยการระดมทุนและบริจาคเงิน 2,000 บาท

บริษัท RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการจัด Hackathon ในธีม UN Sustainable Development Goal 17 ข้อ ภายใต้หลักสูตร DTX – Digital Transformation Xponential เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วม ซึ่่งเป็นผู้นำองค์กรต่างๆ ได้คิดแนวทางแก้ไขปัญหาสังคมที่ NGO แต่ละด้านได้ดำเนินงานอยู่ โดย DTX ได้ดำเนินการมาถึงรุ่น 5 แล้ว ในปี 2567 หลักสูตร DTX ได้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นพลังงานสะอาด อาหาร คนพิการ และการศึกษา โดยโครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ ได้รับเชิญเป็นตัวแทนในด้านการศึกษามาร่วมแจกโจทย์หัวข้อ “เราจะสามารถพัฒนาระบบ Collaborative Classroom ให้มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนได้อย่างไร” เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 67 และร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินผลงานใน Hackthon วัน Pitching Day เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 67

• เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำและ สร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับ เด็กและเยาวชนในประเทศไทย ผ่านการขยายผลกลไล 9 เครื่องมือภายใต้โครงการร้อยพลัง การศึกษาในโรงเรียนในเขตพื้นที่ ความดูแลของสพฐ.

• โครงการร้อยพลังการศึกษานำร่อง ปีแรกกับกว่า 500 โรงเรียนในเขตพื้นที่ความดูแลของสพฐ. และจะขยายผลต่อเนื่องต่อไป

สพฐ. เล็งเห็นว่าโครงการร้อยพลังการศึกษา เป็นกลไลความร่วมมือนวัตกรรมด้านการศึกษาที่ริเริ่มและดำเนินการโดยหลายภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาครัฐ จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการขยายผล สู่โรงเรียนต่างๆ ในสังกัดสพฐ. เพื่อให้เข้าถึงเด็กและเยาวชนจำนวนมากขึ้นขนานกันไป ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ได้มากขึ้นเช่นกัน ในวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา จึงเกิดเป็นพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ โครงการร้อยพลังการศึกษา เพื่อร่วมมือกันส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนรอบด้าน ได้แก่ การเข้าถึงการศึกษา การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การพัฒนาทักษะชีวิตและคุณธรรม และการดูแลโภชนาการที่ดี ระหว่างสพฐ. ลงนามโดยนางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กับมูลนิธิยุวพัฒน์ ลงนามโดยนายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยผู้บริหาร บุคลากรทั้งสองหน่วยงาน ภาคีเครือข่ายร้อยพลังการศึกษา ร่วมเป็น สักขีพยาน และแลกเปลี่ยนแนวทางการร่วมมือกัน

• เพื่อเป็นช่องทางสร้างการมีส่วน ร่วมในการมอบโอกาสทาง การศึกษา ที่พนักงานในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ มีส่วนร่วมได้ เพื่อระดมทุนสนับสนุนโครงการทุนการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์

• สามารถระดมเงินบริจาคและเปลี่ยนเป็นทุนการศึกษา รวม 93,850 บาท 
• สามารถช่วยให้เด็กนักเรียนทุนจำนวน 13 คน ได้เรียนต่ออีก 1 ปีการศึกษา
• ภาพศิลปะที่ไม่ได้รับการสนับสนุนได้ส่งมอบให้โครงการ ICAP นำไปตกแต่งศูนย์เด็กเล็กในเครือข่าย
• ต่อไป

มูลนิธิยุวพัฒน์ผู้ริเริ่มโครงการประกวดภาพศิลปกรรม ยุวพัฒน์ ด้วยความตั้งใจที่จะส่งเสริมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ด้านศิลปะของเด็กและเยาวชน จากการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 20 ปี ทำให้มูลนิธิสามารถเก็บรวบรวมภาพศิลปกรรมได้เป็น จำนวนมาก และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้ในด้านการศึกษาและ ในปี 2567 มูลนิธิเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างการมีส่วนร่วม ของพนักงานภายในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ จึงจัดกิจกรรมระดมทุนผ่านภาพศิลปะ ภายใต้ชื่อ “ศิลปะส่งน้องเรียน” ชวนพนักงานกลุ่มบริษัทพรีเมียร์มีส่วนร่วมในการมอบ โอกาสทางการศึกษาด้วยการร่วมบริจาคเงินเป็นทุนการศึกษา โดยทุกๆ การบริจาค 100 บาท 300 บาท และ 500 บาท จะได้รับภาพศิลปกรรมยุวพัฒน์เป็นของที่ระลึก กำหนดจัดเมื่อวันที่ 13-14 มิถุนายน 2567 ณ บริเวณหน้าห้องดอกมะลิ โดยจัดแสดงภาพทั้งหมด 696 ภาพ

• เพื่อสร้างการรับรู้ปัญหาการ ศึกษาและมีส่วนร่วมลดความ เหลื่อมล้ำทางการศึกษา
• เพื่อสร้างความร่วมมือระดมเงินบริจาคไปพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้กับโครงการร้อยพลังการศึกษา

• สามารถสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการศึกษากับพนักงานกว่า 100 คน
• มีผู้ร่วมบริจาค 17 คน ยอดเงินบริจาครวม 7,041 บาท

บริษัท เทคนิป เอ็นเนอร์จีส์ (ประเทศไทย) จำกัด องค์กรที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาจึงร่วม เป็นส่วนหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนา คุณภาพการศึกษา ด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษาให้เด็กที่ขาดโอกาสได้เข้า ถึงการศึกษาที่มีคุณภาพผ่านโครงการทุนการศึกษาใน ความร่วมมือของร้อยพลังการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 โครงการร้อยพลังการศึกษาได้มีโอกาสไปร่วมออกบูธใน งาน TET Safety Week 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานมีส่วนร่วมและมีความ ตะหนักรู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และสุขภาพ ในธีม HSE begins with team work นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนพนักงานมาร่วมกิจกรรมของโครงการ ได้แก่ ชวนแช๊ะแอนด์แชร์เพจร้อยพลังการศึกษา เพื่อสร้าง ผู้ติดตามเพจให้มากขึ้น และชวนบริจาครับของที่ระลึก กระเป๋า ถุงผ้า และสมุดโน๊ต

• เพื่อสนับสนุนการทำงานของ  องค์กรภาคสังคมในการขับเคลื่อนงานอย่างมี ประสิทธิภาพ
• เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10  เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

• 1มีองค์กรได้รับการสนับสนุนบัตรเติมน้ำมันจากบางจาก จำนวน 72 องค์กร ที่ได้รับการคัดเลือกและเสนอชื่อจาก พนักงานกลุ่มบริษัทบางจาก
• มูลนิธิยุวพัฒน์ได้รับบัตรเติมน้ำมัน จำนวน 30,000 บาท โดยนำไปเป็นทุนในการปฏิบัติงานของโครงการร้านปันกัน

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ดำเนินการจัดกิจกรรม “เติมสุขสู่สังคม” ด้วยการมอบบัตรเติมน้ำมันบางจากมูลค่า 30,000 บาท ให้กับ 72 องค์กรที่ทำงานเพื่อสังคม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 รวมถึงเป็นการแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ องค์กรที่ปฏิบัติภารกิจที่หลากหลายของสังคมในหลายด้าน อาทิ สนับสนุนการพัฒนาเด็ก เยาวชน การศึกษา สิ่งแวดล้อม การแพทย์ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนยามเกิดเหตุฉุกเฉินภัยพิบัติ อุบัติภัย คุ้มครองและอนุรักษ์สัตว์ เป็นต้น โดยโครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ เป็นหนึ่งในองค์กรที่ได้รับสนับสนุนในครั้งนี้ ด้วยการเสนอชื่อจากพนักงานกลุ่มบริษัทบางจากในด้าน ขององค์กรที่ขับเคลื่่อนการดำเนินงานด้านการศึกษา การพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี บริษัทบางจากได้จัดกิจกรรมพิธีมอบบัตรเติมน้ำมันในวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ณ สำนักงานใหญ่ อาคารเอ็ม ทาวเวอร์

• เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมลดความ เหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยการบริจาคเงิน
• เพื่อสร้างการรับรู้และสร้าง ความร่วมมือระหว่างพนักงาน บลูบิคในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

• ได้รับเงินบริจาคจำนวน 10,000 บาท จากบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อนำไปพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้กับโรงเรียนในเครือข่าย
• บริษัท บลูบิค กรุ๊ป ให้ความสนใจสร้างความร่วมมือในรูป แบบอื่น นอกเหนือจากการบริจาคเงิน โดยเริ่มจากการเป็นอาสาสมัครให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการ

บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจในการเป็นที่ปรึกษา ด้านกลยุทธ์และนวัตกรรมเทคโนโลยี โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการเป็นที่ปรึกษาให้กับ ลูกค้าได้เตรียมความพร้อมทางธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลโดยบริษัทบลูบิคเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนา สังคมไทยควบคู่กับการทำงานเพื่อสังคมที่ได้ดำเนินการ มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้มอบเงินบริจาคให้กับองค์กรภาคสังคมที่ทำงาน ขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมในประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ จำนวน 10 องค์กร ไม่ว่าจะเป็น การศึกษา เด็กและเยาวชน สิ่งแวดล้อม คนพิการ และสุขภาพ เป็นต้น เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาสังคมให้เกิดความ ยั่งยืนในอนาคต โดยโครงการร้อยพลังการศึกษา ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนเงิน บริจาค จำนวน 10,000 บาท เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 เพื่อนำไปเป็นทุนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้กับ โรงเรียนในเครือข่ายต่อไป นอกจากนี้บริษัทบลูบิคยังให้ความสำคัญในเรื่องอาสาสมัคร จึงได้วางแผนการทำงานต่อเนื่องด้วยการนำความรู้ ความเชี่ยวชาญของพนักงานมาสร้างประโยชน์ให้กับ โครงการต่อไป

• เพื่อสื่อสารปัญหาและการพัฒนา ความยั่งยืนด้านการศึกษา ที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมของ ทุกภาคส่วน
• เพื่อสร้างเครือข่ายองค์กรที่ต้องการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ สามารถทำความร่วมมือด้วยกันได้

• สามารถสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมบริจาคได้จำนวนเงิน 3,320 บาท มีผู้ร่วมบริจาค 13 ท่าน
• มีอาสาสมัครร่วมเขียนโปสการ์ดอวยพรวันเกิดให้นักเรียนทุนยุวพัฒน์ จำนวน 26 คน 

ด้วยเทรนด์ความยั่งยืนในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ ตลอดเวลา The Cloud ซึ่งเป็นสื่อแนวใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่นยืนได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนกว่า 20 องค์กร ร่วมจัดงาน “Sustrends 2025” งานสัมมนาว่าด้วย 45 เทรนด์ความยั่งยืนที่กำลังจะเปลี่ยนโลก ในวันที่ 5 กันยายน 2567 โดยความน่าสนใจของงานนี้คือ เวทีสัมมนา โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การจัดบูธขององค์กรที่ทำงานด้านความยั่งยืน การสนับสนุนทุน Sustrends 2025 in Action ให้องค์กรแนวคิดใหม่เพื่อความยั่งยืน และในงานนี้ร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ ได้ร่วมออกบูธเพื่อสร้างการรับรู้ปัญหาการศึกษาและ การมีส่วนร่วมของทุกคนในสังคมผ่านการ เล่าเรื่องราวการทำงานในรูปแบบการสร้างเครือข่าย การมีส่วนร่วมที่ยั่งยืนโดยกิจกรรมที่นำไปสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ร่วมงาน ดังนี้ 1. การมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพการศึกษา ด้วยการบริจาคเงินและรับของที่ระลึกที่ได้รับการสนับสนุน จากกาแฟ มีวนา และ Botanical House หรือการติดตามช่องทางสื่อสารของโครงการ 2. การมีส่วนร่วมเป็นอาสาสมัคร ด้วยการเขียนโปสการ์ดอวยพรวันเกิดให้กับนักเรียนทุน ยุวพัฒน์นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสทำความรู้จักกับตัวแทนองค์กรด้านการพัฒนาความยั่งยืนเพื่อสานต่อการสร้างความร่วมมือในอนาคตอีกด้วย

• เพื่อระดมทุนการศึกษาให้กับเด็ก นักเรียนทุนยุวพัฒน์สายอาชีพได้ เรียนจนจบชั้น ปวช.3

• ยอดบริจาคจากคนทั่วไป 29,264 บาท จากผู้บริจาค 17 คน
• ยอดบริจาคจากแคมเปญดูดวงการกุศล 4,785 บาท 
• ยอดบริจาคจากแคมเปญ Pass the read forward 1,358.5 บาท จากผู้บริจาค 10 คน
• ททท. ได้จัดส่งอนุสารอสท. ไปยังวิทยาลัยที่มีหลักสูตรด้านการ ท่องเที่ยวภายใต้เครือข่ายมูลนิธิ 15 แห่ง

มูลนิธิยุวพัฒน์ร่วมกับ Socialgiver หนึ่งในภาคีเครือข่ายที่มีความเชี่ยวชาญด้านกลไกความ ร่วมมือการลงทุนเพื่อสังคม ร่วมกันดำเนินโครงการทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนสาย อาชีพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทุนการศึกษา “ส่งน้องเรียน สร้างเด็กดี” ตั้งเป้าหมายการระดมทุน จำนวน 50,000 บาท โดยจะนำเงินบริจาคที่ได้รับไปเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็ก นักเรียนทุนยุวพัฒน์สายอาชีพ คิดเป็น 14,000 บาท/คน/ปี ได้มีโอกาสเรียนต่อจนจบชั้น ปวช.3 และมีเงินทุนเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตตลอดระยะ เวลา 1 ปี โดยโครงการนี้ผ่านการพิจารณาคัดเลือก และประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์ Socialgiver เพื่อให้คนทั่วไป ได้รับทราบ รวมถึงเป็นช่องทางในการรับบริจาคเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ Socialgiver ยังเชิญชวนธุรกิจใจดีและสื่อบุคคลมาร่วมแคมเปญเพื่อ กระตุ้นยอดบริจาค ได้แก่ 1. รายได้จากการจำหน่ายบัตรกำนัลเงินสด 100 บาท จากร้าน Gathering Cafe 2. แคมเปญดูดวงการกุศลกับหมอนก Bird eye view 3. รายได้จากการจำหน่ายบัตรกำนัลเงินสด 5,900 บาท จาก Rain Tree Khao Yai Hotel 4. แคมเปญ Pass the read forward ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่บริจาครายได้ 10% จากค่าสมาชิกอนุสารอสท. 850 บาท

• เพื่อระดมทุนสนับสนุนการทำงาน ของโครงการ FOOD FOR GOOD เพื่อบรรเทาปัญหาด้านโภชนาการที่มีจำกัด และส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีโภชนาการที่เหมาะสม

• ร้านค้าในกลุ่ม Made in Song Wat เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 17 ร้านค้า พร้อมสนับสนุนอาหารและเครื่องดื่ม มูลค่ารวม 57,292 บาท
• มีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด 65 คน
• สื่อบุคคลร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรม จำนวน 5 เพจ
• ยอดเงินระดมทุนรวมเป็นจำนวนเงิน 82,521 บาท นำไปสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อ พัฒนาระบบการจัดการงานอาหาร โภชนาการ และสุขภาพเด็กนักเรียน โรงเรียนวัดศรีสุวรรณคงคาราม (ราษฎร์สงเคราะห์) จ.สมุทรสงคราม

โครงการร้อยพลังการศึกษา, โครงการ FOOD FOR GOOD, Socialgiver หนึ่งในภาคีเครือข่ายที่มีความเชี่ยวชาญด้านกลไกความ ร่วมมือการลงทุนเพื่อสังคม และกลุ่ม Made in Song Wat กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ย่านถนนทรงวาด ร่วมกันดำเนินกิจกรรม “Taste of Song Wat: รสชาติแห่งทรงวาด”กิจกรรมเดินทัวร์กับไกด์ท้องถิ่นย่าน ถนนทรงวาด ช้อป ชิม และช่วยสังคมไปพร้อมกัน  ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ความเป็นมาของย่านทรงวาด ลิ้มลองอาหารและขนมอันหลากหลายจากร้านดังในย่าน   นี้ วันละ 6 ร้านค้า และเรียนรู้เรื่องโภชนาการไปพร้อมกัน โดยจัดจำนวน 3 ครั้งในวันที่ 7, 14 และ 28 กันยายน ตั้งแต่ 11.00 – 15.00 น. บัตรกิจกรรมราคา early bird 1,990 บาท และราคาปกติ 2,500 บาท โดยรายได้จากการขายบัตรจะนำไปสนับสนุนโครงการ FOOD FOR GOOD

• ส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชน ไทย และลดความเสี่ยงไม่ให้นักศึกษาที่ มีความตั้งใจและความสามารถหลุดออกจาก ระบบการศึกษา เนื่องจากขาดแคลนทุนทรัพย์

• ทุนการศึกษาแก่นักศึกษา จำนวน 10 คน รวมเป็นเงินทุนการศึกษา 600,000 บาท
• เงินทุนเพื่อใช้จ่ายที่จำเป็น ค่าครองชีพ ให้แก่นักศึกษา จำนวน 10 คน รวมเป็นเงินทุนกว่า 173,000 บาท
• เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร  Bi-Turbo พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ใช้ในรถ Ford Ranger และ Ford Everest เพื่อใช้เป็นสื่อการสอน ให้นักศึกษาสาขาเทคนิคยานยนต์ได้ เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในรถยนต์รุ่นล่าสุดของฟอร์ดการ ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น การเปิดโอกาสในการฝึกปฏิบัติงานจริง

ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิยุวพัฒน์ และ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ (Teach for Thailand) ในการส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทยด้วยการสนับสนุน ทุนการศึกษาและ ชุดสื่อการเรียนการสอนให้กับวิทยาลัย เทคโนโลยีนนทบุรี ภายใต้โครงการ “เปลี่ยนความรู้ สู่อาชีพ” เพื่อเสริมสร้างความต่อเนื่องในการเรียนรู้และการพัฒนา ทักษะที่จำเป็นให้แก่นักศึกษาสายอาชีพ โดยโครงการนี้จะมุ่งเน้นในการเตรียมเยาวชนไทยให้มี ทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นแรงงานที่สำคัญในอนาคต จึงขอร่วมสนับสนุนการพัฒนาการศึกษากับวิทยาลัยเทคโนโลยีนนทบุรี โดยมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาเทคนิคยานยนต์ ครอบคลุมค่าเล่าเรียนเป็นระยะเวลา 2 ปี และเงินสนับสนุนในการใช้จ่ายเริ่มต้น (ค่าครองชีพ) เพื่อให้นักศึกษาที่มาจากต่างจังหวัดมีความพร้อมต่อการ เรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริงในกรุงเทพมหานคร โดยมีนักศึกษาจำนวน 10 คน จะได้รับการดูแลและการประคับประคองจนเรียนจบระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ภายใต้โครงการทุนการศึกษา “ส่งน้องเรียน สร้างเด็กดี” โดยมูลนิธิยุวพัฒน์

• เพื่อบริจาคเงินเป็นทุนการศึกษา สำหรับเด็กและเยาวชนที่ขาด โอกาส ในโครงการทุนการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์

• โครงการทุนการศึกษา ได้รับเงินบริจาคจำนวน 27,979 บาท
• มีนักเรียนในโครงการทุนการศึกษา จำนวน 4 คน ได้รับทุนทุนการศึกษา 1 ปีการศึกษา

นักเรียนมัธยมศึกษา จากโรงเรียนมาแตร์เดอี ได้รวมตัวกันภายใต้ชื่อกลุ่ม “MEMOME” จัดทำโปรเจกต์ระดมทุนในโครงการ Se (Social Entrepreneurship) โดยมีเป้าหมายที่จะนำรายได้ทั้งหมดบริจาคให้ มูลนิธิยุวพัฒน์ เพื่อเป็นทุนการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาส แรงบันดาลใจของน้อง ๆ มาจากการเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และต้องการช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนที่อาจหลุดจาก ระบบการศึกษา โดยตีมของโปรเจกต์คือ “ความทรงจำ” ซึ่งสะท้อนถึงการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในทุกช่วงชีวิต และเป็นที่มาของชื่อกลุ่ม MEMOME ซึ่งหมายถึง “จะ-จด-จำ” หรือ Remember Me โดยมอบเงินบริจาคเงินจำนวน 27,979 บาทให้กับทางมูลนิธิ

• เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจากร้านค้าของทาโรผ่านการตั้งกล่องรับ บริจาค เพื่อเชิญชวนคนในสังคม หรือลูกค้าของร้านค้าได้มี ส่วนร่วมช่วยเหลือนักเรียนขาด โอกาสผ่านการบริจาคเพื่อสมทบ ทุนการศึกษาโครงการทุนการ ศึกษาส่งน้องเรียน สร้างเด็กดี

• ร้านค้าจำนวน 14 ร้านค้าอนุเคราะห์การตั้งกล่องรับบริจาครอบ ส.ค. – ก.ย.:  1. บจก.แจ่มฟ้า เซฟมาร์ท จ.ลำพูน 2. บจก.ส.ล.โฮลเซลล์ จ.นครสวรรค์ 3. บจก.วัชราวรรณ (2008) จ.ระยอง 4. บจก.เกียรติสินโฮลเซล จ.ขอนแก่น 5. หจก.ส.ทวีภัณฑ์สโตร์ จ.เลย 6. หจก.ตลาดใหม่ จุ๋มจิ๋ม พลาซ่า จ.ระนอง 7. บจก.ห้างสหไทยสรรพสินค้า จ.นครศรีธรรมราชรอบ ต.ค. – ธ.ค.: 1. บจก.เอส.อาร์.ซุปเปอร์มาร์ท จ.เพชรบูรณ์ 2.หจก. นราพาณิชย์ จ.น่าน 3. บจก.เอกวรนันท์ จ.ระยอง 4. หจก.ลีวิวัฒน์ถาวร (ลีวิวัฒน์ซุปเปอร์ค้าส่ง) จ.สงขลา 5. หจก.ภูเก็ตโกรเซอรี่ จ.ภูเก็ต 6. บจก.ฮกกี่เมกาสโตร์ จ.นครราชสีมา 7. บจก.สยามวิชโก้ จ.นครราชสีมา
• เงินบริจาคจาก 7 ร้านค้ารอบ ส.ค. – ก.ย. รวม 61,888.75 บาท และเงินบริจาคจาก 7 ร้านค้ารอบ ต.ค. – ธ.ค. รวม  15,640.25 บาท รวม 77,529 เป็นเงินทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน สายสามัญจำนวน 11 คน

บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายขนมปลาสวรรค์ ยี่ห้อ “TARO” ได้ริเริ่มแคมเปญ “TARO ส่งน้องเรียนสร้างเด็กดี” เพื่อสนับสนุน ช่วยเหลือ ส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสให้มีพื้นฐานการศึกษาที่เหมาะสมตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิยุวพัฒน์ ผ่านการตั้งกล่องรับบริจาคที่ร้านค้าในสายส่งของ TARO ในแต่ละภูมิภาค โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – วันที่ 31 ธันวาคม 2567

• เพื่อบริจาคเงินที่ได้จากการ จำหน่ายสินค้าประเภทเครื่อง ประดับเพชรที่ร่วมรายการให้แก่ โครงการพัฒนาเด็กปฐมวัย (ICAP)
• เพื่อบริจาคเงินที่ได้จากการจัด ทำของที่ระลึกภายใต้โครงการ ความร่วมมือ Limited Education ให้แก่โครงการร้อยพลังการศึกษา

• มูลนิธิได้รับเงินสนับสนุนการผลิตของที่ระลึกและดำเนินการสั่งผลิตเพื่อ เตรียมของที่ระลึก โดยเงินสนับสนุนหลังหักค่าใช้จ่าย จำนวน 46,819.66 บาท นำไปสนับสนุนโครงการร้อยพลังการ ศึกษา
• มูลนิธิได้รับเงินบริจาค 200,000 บาท เพื่อนำไปสนับสนุนโครงการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัย (ICAP)

บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าทองคำ และเครื่องประดับเพชรในประเทศไทย ได้จัดทำโครงการ “Aurora Diamond Love & Share ปีที่ 4” ในระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2567 โดยมีวัตถุประสงค์ในการบริจาคเงินที่ได้จากการจำหน่าย สินค้าประเภทเครื่องประดับเพชรที่ร่วมรายการภายใต้ โครงการ ให้แก่โครงการพัฒนาเด็กปฐมวัย (ICAP) เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท โดยการจำหน่ายสินค้าเครื่องประดับเพชรที่ร่วมรายการ ในโครงการทุกๆ 1 ใบเสร็จ ออโรร่าจะบริจาคเงินเข้าร่วมโครงการ 100 บาทตลอดระยะเวลาโครงการ ทั้งนี้ หากการจำหน่ายสินค้าที่ร่วมโครงการได้เงินหลังจาก หักค่าใช้จ่ายไม่ถึง 200,000 บาท บริษัทจะร่วมบริจาคเงินสบทบให้แก่มูลนิธิฯ จนครบ 200,000 บาท นอกจากนี้ออโรร่าจะจัดทำของที่ระลึกภายใต้โครงการความร่วมมือ Limited Education ด้วยเงินสนับสนุน 120,000 บาท โดยจะผลิตถุงผ้ากำมะหยี่ทั้งหมด 4,000 ชิ้น เพื่้อมอบให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่ร่วมรายการภายใต้โครงการ ลูกค้าจะได้รับของที่ระลึก 1 ชิ้น / 1 ใบเสร็จ เงินสนับสนุนหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปใช้ในโครงการร้อยพลังการศึกษา

• เพื่อช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาผ่านโครงการความร่วมมือ Limited Education สนับสนุนโครงการร้อยพลังการ ศึกษา
• เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และดึงการมีส่วนร่วมของบุคคล    ทั่วไปเข้ามาร่วมสนับสนุนผ่านการ บริจาคพร้อมรับของที่ระลึก

• ยอดบริจาคตั้งแต่ พ.ย. – ธ.ค. รวม 76,398 บาท มาจาก Line 8,579.85 บาท จากการเดินทรูปภายใน Premier 53,700 บาท และออกบูธ 10,788 บาท
• ได้สร้างการรับรู้ถึงปัญหาการศึกษา และโครงการร้อยพลังการศึกษา ผ่านการออกบูธ 3 อีเว้นท์ ได้แก่ งานถนนปันกันครั้งที่ 10, Bitec Buri Festival 2024, AWC Charity Market 2024

โครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ ร่วมมือกับ “พิแน” (Pi-near) หรือ แพร-ณิชาพร จิรพงศานานุรักษ์ ศิลปินนักเขียนและวาดภาพประกอบอิสระ คิดแคมเปญระดมทุน ออกแบบ ประชาสัมพันธ์แคมเปญ และจัดทำของที่ระลึกภายใต้โครงการความร่วมมือ Limited Education เพื่อช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษากับโครงการร้อยพลังการศึกษา โดยศิลปินจะเป็นผู้ออกแบบของที่ระลึก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษา และดึงการมีส่วนร่วมของบุคคลทั่วไปเข้ามาร่วม สนับสนุนผ่านของที่ระลึกภายใต้คอลเลคชั่น “คำถามจากนิทานวัยเด็ก” Education ที่ออกแบบลวดลายจากนิทานอย่าง หนูน้อยหมวกแดง, ลูกเป็ดขี้เหร่, และลูกหมู 3 ตัว เป็น 3 รายการ ได้แก่ สมุดโน้ต, กระเป๋าหูรูด และกระเป๋าผ้าแคนวาส โดยเปิดรับบริจาคผ่าน Line My Shop ร้อยพลังการศึกษา การเดินทรูปภายในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ และการออกบูธตามอีเว้นท์ต่างๆ

• เชิญชวนลูกค้าของบริษัท เกรย์ อัลเชมี่ จำกัด ทำความดี แทนการมอบของขวัญในช่วง เทศกาลคริสต์มาส 

• สามารถระดมทุนได้ 38,500 บาท เป็นเงินทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน สายสามัญที่ขาดโอกาสจำนวน 6 คน

บริษัท เกรย์ อัลเชมี่ จำกัด จัดทำ Physical Card สำหรับลูกค้าที่อยู่ในประเทศไทย และ E-Digital card สำหรับลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ เพื่อใช้ในการเลือกมูลนิธิที่ลูกค้าต้องการบริจาค ซึ่งบริษัทฯ จัดทำการ์ดที่มีการให้ข้อมูลของมูลนิธิ และ post link เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลนิธิต่างๆ ด้วย ซึ่งจำนวนเงินบริจาคจะขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่เลือกมูลนิธินั้นๆ โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ เป็นหนึ่งในมูลนิธิที่บริษัทฯ จะนำเสนอให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ โดยบริษัทฯ จะบริจาคเงินสนับสนุน จำนวน 500 บาท (ห้าร้อยบาทถ้วน) ให้แก่มูลนิธิยุวพัฒน์ ต่อลูกค้า 1 ท่านที่เลือกมูลนิธิยุวพัฒน์ภายใต้โครงการ