นิยาม
กลไกระดมทรัพยากรทางการเงินผ่านตลาดทุนในรูปแบบ “กองทุนรวม” เพื่อสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน “เงินบริจาค” ของนักลงทุนในการต่อชีวิต สร้างอนาคตแก่ผู้มีความต้องการ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด สถาบันเช้นจ์ ฟิวชัน ภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิเพื่อ"คนไทย" และมูลนิธิยุวพัฒน์
วิสัยทัศน์
"การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนทั้งทางการเงินและทางสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล และการต่อต้านคอร์รัปชัน"
พันธกิจ
- ส่งเสริมการลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล และการต่อต้านคอร์รัปชัน (ESGC) ที่ดี เพื่อให้ได้ผลตอบแทนทั้งการลงทุนและทางสังคม สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และการต่อต้านคอร์รัปชัน
- สนับสนุนการบริจาคเงินจากผู้ลงทุนเพื่อต่อชีวิตและสร้างอนาคตแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุน ในประเด็นทางสิ่งแวดล้อม สังคมธรรมาภิบาล และการต่อต้านคอร์รัปชัน
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ผู้ลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน
ผู้ลงทุน ทั้งรายย่อยและสถาบัน ในฐานะผู้สนับสนุนบริษัทที่มี ESGC และสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมผ่านกลไกค่าบริหารจัดการกองทุน
บลจ. บัวหลวง
ในฐานะผู้บริหารกองทุนฯ ที่เชื่อมโยงเงินและการมีส่วนร่วมของผู้ลงทุนกับโครงการเพื่อสังคม
องค์กรตัวกลางด้านสังคม
ในฐานะผู้สรรหา คัดเลือก พัฒนา ติดตามความก้าวหน้าและผลลัพธ์ของโครงการเพื่อสังคมที่รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ
โครงการและองค์กรที่ทำงานส่งเสริมธรรมาภิบาล ต่อต้านคอร์รัปชันในสังคมไทย
ในฐานะผู้รับการสนับสนุนเงินบริจาคจากกองทุนฯ เพื่อดำเนินการการต่อชีวิต และสร้างอนาคตแก่กลุ่มเป้าหมาย
ประชาชนผู้รับประโยชน์ปลายทาง
ผลผลิต-ผลลัพธ์ กองทุนรวมคนไทยใจดี ปี 2566
โครงการความร่วมมือ
5 โครงการ
พลเมืองที่มีส่วนร่วมเพื่อส่วนรวม
818 คน
ผู้บริจาค
1 องค์กร
ยอดบริจาค
3,939,366 บาท
อาสาสมัคร
400 คน
ผู้รับประโยชน์
21,429 คน / 29 องค์กร
ปี 2566 มี 5 โครงการเพื่อสังคมที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ มูลค่ารวม 3.9 ล้านบาท โดยมียอดสะสมจำนวนโครงการเพื่อสังคมที่ได้รับทุนสนับสนุนนับตั้งแต่ปี 2558 – 2566 จำนวน 63 โครงการเพื่อสังคม มูลค่ารวม 48 ล้านบาท
เยาวชน/สุขภาพ
การดูแลนักเรียนผ่านการบูรณาการด้านจิตวิทยาสังคม
งบประมาณสนับสนุน
994,906 บาท
Food For Good (2566)
งบประมาณสนับสนุน
550,000 บาท
สุขภาพจิต
Sati App
งบประมาณสนับสนุน
876,000 บาท
ผู้พิการ
โครงการฝึกอบรมและการสร้างชุดเครื่องมือ สำหรับผู้ดูแลผู้พิการ
งบประมาณสนับสนุน
718,860 บาท
สิ่งแวดล้อม
รักษาป่าต้นน้ำ
งบประมาณสนับสนุน
799,600 บาท
รวม 5 โครงการ
3,939,366 บาท
ที่มา: สถาบันเช้นจ์ ฟิวชัน มกราคม 2567
ทั้งนี้ 5 โครงการดังกล่าวครอบคลุมประเด็นเยาวชน สุขภาพ ผู้พิการ สิ่งแวดล้อม ที่เข้าถึงผู้รับประโยชน์ 21,429 คน ประกอบด้วย บุคลากรในสถานศึกษา 182 คน เยาวชน 8,202 คน ประชาชนทั่วไป 13,045 คน นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัคร 400 คน และผู้ร่วมกิจกรรมอีก 418 คน โดยมีรายละเอียดและการสร้างผลกระทบทางสังคม ดังนี้
รายละเอียดและความก้าวหน้าของโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนรวมคนไทยใจดี ประจำปี 2566 ดังนี้
การดูแลนักเรียนผ่านการบูรณาการด้านจิตวิทยาสังคม โดย สถาบันพัฒนาระบบบริการสุขภาพองค์รวม ภายใต้มูลนิธิสาธารณะสุขแห่งชาติ
พัฒนารูปแบบการดูแลนักเรียนในสถานศึกษาผ่านเครื่องมือคัดกรองภาวะซึมเศร้าและการใช้สารเสพติดของนักเรียน รวมถึงชุดเครื่องมือให้คำปรึกษาแก่นักเรียนสำหรับครูผู้ดูแล เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาด้านอารมณ์ จิตใจ และพฤติกรรม เช่น การใช้สารเสพติด การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง และภาวะซึมเศร้าซึ่งนำไปสู่การฆ่าตัวตาย
ความก้าวหน้าที่น่าสนใจ
- ถอดบทเรียนจากการทำงานของคลินิกหมอครอบครัวคลองศาลา รพ.เพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ พัฒนาเป็นชุดเครื่องมือการปฏิบัติงานหลักสูตร “ครูนางฟ้า”
- สร้างระบบ IT ช่วยโรงเรียนในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงภาวะซึมเศร้า และกำลังพัฒนาให้กลายเป็นช่องทางการสื่อสารสำหรับนักเรียนที่ต้องการพูดคุยปรึกษาทั้งในรูปแบบรายบุคคลและนิรนาม
- จัดการอบรม “เสริมศักยภาพครูในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาโดยบูรณาการจิตวิทยาสังคม (ครูนางฟ้า)
- ออกแบบและผลิตชุดเครื่องมือการปฏิบัติงานหลักสูตร “ครูนางฟ้า” ซึ่งเป็นแนวทางการดูแลนักเรียนในสถานศึกษาโดยบูรณาการจิตวิทยาสังคม ซึ่งประกอบด้วย 1) คู่มือ 2) โปสเตอร์แนวทางการดูแลนักเรียนในสถานศึกษา 3) การ์ดสะท้อนเหตุการณ์ในชีวิต (Reflection card) 4) บอร์ดทบทวนความรู้สึก (Emotional board) และ 5) ใบงานสำหรับปรับความคิดและพฤติกรรมของนักเรียน
ผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้น (ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน)
- คณะกรรมการบริหารสถานศึกษาและบุคลากรทางสาธารณสุขในพื้นที่จำนวน 86 คน เกิดความเข้าใจในแนวทางการดูแลนักเรียนในสถานศึกษารูปแบบใหม่ พร้อมสนับสนุนบุคลากรในโรงเรียนในการดำเนินการ
- ครูในสถานศึกษาจำนวน 40 คนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการดูแลนักเรียนในสถานศึกษารูปแบบใหม่ที่นำจิตวิทยาสังคมเข้ามาบูรณาการ
- นักเรียนจำนวน 1,437 คนได้รับการคัดกรอง ทำให้เกิดความตระหนักรู้ในสภาวะจิตใจของตัวเอง และได้รับการส่งต่ออย่างทันท่วงทีในกรณีที่มีปัญหา
Sati App โดยมูลนิธิสติ แอพ
Sati App ได้รับการพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ด้านสุขภาพจิตที่สามารถถ่ายทอดสู่สังคมโดยรวม สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลจิตใจเบื้องต้น (Psychological First Aid – PFA) และเปิดโอกาสให้ผู้คนในสังคมเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครผู้ฟังบนแพลตฟอร์ม Sati App ให้สามารถเป็นกลุ่มผู้ฟังที่ช่วยให้ทุกคนที่ทุกข์ยาก สามารถติดต่อได้ทุกเมื่อที่ต้องการความช่วยเหลือ
ความก้าวหน้าที่น่าสนใจ
- รักษาดูแลระบบอบรมหลักสูตรการปฐมพยาบาลจิตใจเบื้องต้น ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือและทักษะในการให้การสนับสนุนด้านจิตใจ
- ออกแบบเพื่อพัฒนาระบบ Sati App ให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
- จัดงาน World Mental Health Day : Better Mind Better Bangkok ในปี 2023 เพื่อเป็นกิจกรรมวัน สุขภาพจิตของไทยและสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องของสุขภาพจิตในไทยให้มากขึ้น
ผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้น (ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน)
- ประชาชนประมาณ 5,000 คน ได้รับบริการทำให้มีสุขภาพจิตดีขึ้น
- อาสาสมัครประมาณ 400 คนสามารถช่วยเหลือดูแลคนรอบข้างผ่านการฟังอย่างเข้าใจได้
- ประชาชนทั่วไปประมาณกว่า 250 คนเข้าร่วมงาน World Mental Health Day : Better Mind Better Bangkok ในปี 2023 ทำให้เห็นความสำคัญของสุขภาพจิตมากขึ้น
โครงการฝึกอบรมและการสร้างชุด เครื่องมือสำหรับผู้ดูแลผู้พิการ โดยบริษัท สเตปส์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
โครงการฝึกอบรมผู้ดูแลผู้พิการโดยผู้เชี่ยวชาญ การสร้างเครือข่ายและการสร้างชุดเครื่องมือ ให้แก่ผู้ดูแลเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ Best Practice รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้พิการ สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตลาดแรงงานได้
ความก้าวหน้าที่น่าสนใจหลังปิดโครงการ
- ดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการฝึกอบรมผ่านการติดต่อกับหน่วยงานจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล, มูลนิธิออทิสติกไทย, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ The Rainbow Room
- จัดเตรียมเนื้อหาในการฝึกอบรม เช่น ทักษะการใช้ชีวิตของผู้พิการ ทักษะการพึ่งพาตนเอง การเตรียมตัวสมัครงาน เป็นต้น
ผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้น (ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน)
- เนื่องจากโครงการอยู่ในช่วงวางแผนประชาสัมพันธ์ จึงยังไม่สามารถระบุผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้นได้ ข้อมูลส่วนนี้จะสามารถระบุได้เมื่อเริ่มต้นการฝึกอบรมแล้ว
Food for Good 2566 โดยมูลนิธิยุวพัฒน์
โครงการฯ สนับสนุนงบประมาณและองค์ความรู้ให้กับโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายเพื่อร่วมพัฒนาระบบการจัดการอาหารและโภชนาการเด็กในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งหวังให้โรงเรียนมีเครื่องมือและแนวทางการดูแลโภชนาการเด็กที่ถูกต้อง เป็นระบบ ครอบคลุม และเชื่อมโยงทั้งที่บ้านและโรงเรียน เด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีพลังงานและสารอาหารครบถ้วน เหมาะสม และดูแลเฝ้าระวังติดตามภาวะโภชนาการของเด็กอย่างเป็นระบบ
ความก้าวหน้าที่น่าสนใจหลังปิดโครงการ
- เปิดรับสมัครโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ FOOD FOR GOOD ปีการศึกษา 2566 โดยดำเนินการร่วมกับสำนักงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวัน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)
- ผลิตชุดคู่มือและอุปกรณ์การอบรมการจัดบริการอาหารและโภชนาการในโรงเรียน อุปกรณ์สุขาภิบาลอาหารสำหรับแม่ครัว 3 ชุด (ผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม) อุปกรณ์การวัดส่วนสูง และปลอกแขนสำหรับกิจกรรมแกนนำนักเรียนให้กับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ
- ดำเนินการจัดอบรมภายใต้หลักสูตรพัฒนาศักยภาพครูโภชนาการ FOOD FOR GOOD เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการรูปแบบออนไลน์ จำนวนผู้ผ่านการอบรมทั้งสิ้น 168 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมความรู้และทักษะในการดำเนินงานอาหารและโภชนาการในโรงเรียน นำไปสู่การสร้างระบบการจัดการอาหารและดูแลโภชนาการนักเรียนขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้น (ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน)
- ผู้อำนวยการโรงเรียนจำนวน 56 คน มีความรู้และแนวทาง สามารถสร้างระบบการจดัการอาหาร และโภชนาการเด็กนักเรียนที่มีประสิทธิภาพให้เกิดขึ้นใน โรงเรียน
- คุณครูจำนวน 168 คนได้รับการพัฒนาความรู้ตามหลักสูตร และสามารถจัดบริการอาหารและดูแล โภชนาการใหก้บนักเรียนอย่างถูกต้องเหมาะสม
- นักเรียนจำนวน 6,765 คนได้รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน ถูกต้อง และเหมาะสมกับช่วงวัย
รักษาป่าต้นน้ำ โดยบริษัท เดอะ เน็กซ์ ฟอเร็ซ จำกัด
โครงการรักษาป่าต้นน้ำดำเนินการในพื้นที่บ้านแม่สาใหม่ บ้างปงไคร้ และม่อนล่อง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการดูแลรักษาผืนป่าทั้งป่าธรรมชาติผืนใหญ่ และพื้นที่ป่าที่ได้รับการฟื้นฟู ซึ่งภายใต้โครงการนี้ จะให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการดูแลรักษาพื้นที่ป่าของชุมชน และการติดตามผลบริการจากระบบนิเวศที่คนในชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้รับจากพื้นที่ป่าแห่งนี้
ความก้าวหน้าที่น่าสนใจหลังปิดโครงการ
- ประสานงานกับหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาพื้นที่ป่าเป้าหมายในโครงการ ได้แก่
– หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า (FORRU) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดูแลจัดการรักษาพื้นที่ป่าชุมชนในเขตบ้านแม่สาใหม่ และป่าฟื้นฟู บ้านปงไคร้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
– โครงการหลวงหนองหอย ดูแลจัดการรักษาพื้นที่ ป่าในเขตม่อนล่อง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ - กำหนดรายละเอียดและวิธีการในการติดตามผลบนพื้นที่เป้าหมายภายหลังจากกิจกรรมการดูแลรักษาพื้นที่โดยการจัดทำแนวกันไฟและจัดเวรยามเฝ้าระวังไฟสิ้นสุดลง ซึ่งจะทำการติดตามและวัดผลบริการจากระบบนิเวศ
ผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้น (ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน)
- คนในชุมชนประมาณ 1,600 คนสามารถดูแลรักษาพื้นที่ป่าชุมชนให้รอดพ้นจากไฟในช่วงฤดูแล้งได้ปีต่อปี
- ประชากรในพื้นที่ประมาณ 6,445 คน ได้รับประโยชน์จากฝุ่น PM2.5 ที่ลดลง และได้ใช้ประโยชน์จากการรักษาป่าต้นน้ำซึ่งไหลผ่านหลายหมู่บ้านในตำบลโป่งแยง