หากใครมีโอกาสได้ผ่านไปแถวเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อวันที่ 13-16 กันยายนที่ผ่านมา ก็อาจจะได้เห็นหรือร่วมกิจกรรมกับงาน Good Society Expo 2018 “ทำดีหวังผล เริ่มต้นที่เรา”จนหลายคนอาจต้องย้อนกลับไปถามตนเองว่า
“เวลาเราจะทําดีซักที เคยถามตัวเองมั้ยว่าเราทําเพราะอะไร?”
Good Society Expo 2018 พื้นที่การสร้างพลเมืองที่มีส่วนร่วมเพื่อส่วนรวม ร่วมกันขยายผลความสำเร็จการแก้ปัญหาสังคม ผ่านกลไกความร่วมมือประเภทต่างๆ โดยมีองค์กรตัวกลาง รวมทั้งคนทำงานเพื่อสังคมจากภาคส่วนต่างๆ ที่มีผลสำเร็จ กว่า 150 องค์กร ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น เพื่อเชิญชวนประชาชนมาช่วยกันแก้ปัญหาสังคมให้เกิดผลในแบบของตัวเอง กับช่องทางแก้ปัญหาสังคมหลากหลายร่วมกัน
ในทางกายภาพ ตัวงานจะประกอบด้วยพื้นที่กิจกรรมนำเสนองานพัฒนาสังคมใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ “การศึกษา คนพิการ ต้านทุจริต สิ่งแวดล้อม สุขภาพ” พร้อมช่องทางการให้ ทั้ง “เทใจ ปันกัน ฟู้ดฟอร์กู๊ด โซเชียลกิฟเวอร์ และเครือข่ายจิตอาสา” บนพื้นที่ 6 โซนกิจกรรม นำเสนอปัญหาและทางออกให้ทุกคนมีส่วนร่วมกว่า 120 กิจกรรม
จากการจัดกิจกรรมทั้ง 4 วัน ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย ได้เห็นพลังการมีส่วนร่วมนำมาสู่การลงมือทำช่วยเหลือสังคมการแบ่งปันในทุกๆ ด้าน รวมจำนวนกิจกรรมทั้งสิ้นกว่า 15,000 ครั้ง จากผู้เข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน ที่มาจากความร่วมมือขององค์กรภาคีร่วมจัด 150 องค์กร อาสาสมัครช่วยงาน 122 คน สื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวสาร 45 ช่องทาง และสื่อผู้สนับสนุนหลักอีก 7 องค์กร
คุณพัดชา มหาทุมะรัตน์ รองผู้อำนวยการโครงการร้อยพลังเปลี่ยนประเทศ ในฐานะตัวแทนภาคีผู้ร่วมจัดงาน กล่าวว่า ภาพรวมของงานปีนี้มีการพัฒนามากขึ้นในเชิงปริมาณซึ่งมีองค์กรที่เข้าร่วมเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 100 องค์กร เป็น 150 องค์กร ขณะที่เนื้อหากิจกรรมมีวิธีการสื่อสารที่สามารถดึงการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เดินในงานได้มากขึ้น หลายกิจกรรมเริ่มเกิดความต่อเนื่อง เช่น พาวิลเลียนสิ่งแวดล้อมพาประชาชนไปปลูกป่า พาวิเลียนการศึกษายังมีการระดมทุนจนถึงสิ้นเดือนนี้ รวมทั้งพาวิลเลียนต่อต้านคอร์รัปชันอยู่ระหว่างการสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคต ฯลฯ
“ผลลัพธ์สำคัญของงานที่เกิดขึ้นคือการที่ประชาชนได้มีส่วนร่วมกว่า 120 กิจกรรม แล้วเกิดแรงบันดาลใจลงมือทำต่อและมองเห็นโอกาสที่จะมาทำร่วมกับภาคีผู้แก้ปัญหาสังคมตัวจริง” คุณพัดชา กล่าว
เสียงสะท้อนจากกลุ่มเยาวชนเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการช่วยแก้ปัญหาสังคมจากจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมทัวร์ภาคสนามมีทั้งหมด 23 องค์กร คิดเป็น 207 คน เกินครึ่งเป็นเยาวชน
น้องโฟนิค มาพร้อมด้วยคุณแม่หญิง คุณสกาวรัตน์ วงศ์มั่นคงกิจการ กล่าวว่า สนุกกับกิจกรรมในงานอย่างมาก เพราะได้ความรู้ในการช่วยเหลือสังคมรูปแบบต่างๆ ที่เด็กๆ อย่างเขาสามารถทำได้ ส่วนคุณแม่บอกว่ามาร่วมกิจกรรมเพราะเป็นกิจกรรมที่ดี ช่วยกระตุ้นให้คนใส่ใจต่อสังคม และรู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
เช่นเดียวกับ น้องก้อ จากโรงเรียนวัดสุทธิวราราม บอกว่า มาร่วมกิจกรรมในงานเพราะต้องการทราบช่องทางช่วยเหลือสังคมที่เหมาะกับวัยของเขาและได้คำตอบที่น่าพอใจกลับไป
ด้านสื่อมวลชนมีบทบาทตรวจสอบรักษาผลประโยชน์สาธารณะ ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำเสนอข่าวดี มีประโยชน์ เพื่อนำพาขับเคลื่อนสังคมไปสู่จุดที่ดี
คุณวิบูลย์ ลีรัตนขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเซิร์ช กล่าวว่า โดยธรรมชาติของสื่อมวลชนมีหน้าที่นำเสนอข่าวที่เป็นประโยชน์แก่สังคม หลังจากมีโอกาสได้ร่วมสื่อสารงานนี้ต่อเนื่อง 5 ปี มีความยินดีกับการเติบโตของงานที่มาจากความร่วมไม้ร่วมมือของคนในสังคม
“รู้สึกเป็นสุข โดยส่วนตัวตั้งใจจะเชื่อมต่อกิจกรรมกับองค์กรภาคีในงานให้เกิดประโยชน์ด้วย” คุณวิบูลย์ กล่าว
ขณะที่ คุณณาตยา แวววรคุปต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักข่าว ด้านข่าวยุทธศาสตร์และการขับเคลื่อนวาระทางสังคม องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานร่วมกันและออกแบบงานร่วมกันของคนไทยภาคส่วนต่างๆ น่าจะสร้างการเปลี่ยนเปลงในสังคมได้
“ในอนาคตจะไทยพีบีเอสจะเข้ามามีส่วนพัฒนางานสื่อสารให้มากขึ้น เพราะเป็นการร่วมมือกันสร้างพลังทางสังคม”คุณณาตยา กล่าว
หลายครั้งที่เรื่องราวต่างๆได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังที่ปลุกเร้าความทุ่มเทของคนในสังคมให้ลุกขึ้นมาร่วมกันแก้ปัญหา นี่อาจถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ แต่จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีหุ้นส่วนแห่งความร่วมมือที่มองเห็นว่า “คน” เป็นหัวใจสำคัญของการแก้ปัญหาสังคม
ถามว่า การทำดีหวังผล ต้องรอให้ปีหน้ามั้ย..ถึงบรรทัดนี้ คำตอบชัดเจนว่า ทำได้ทันที ทำได้ทุกที่ ทำได้ทุกคน !
ติดตามรายละเอียดที่www.khonthaifoundation.org หรือ facebook.com/khonthaifoundation