เริ่มแล้ววันนี้งาน “Good Society Expo 2018 : ทำดีหวังผลเริ่มต้นที่เรา” พร้อมเชิญชวนประชาชนมาช่วยกันแก้ปัญหาสังคมให้เกิดผลในแบบของตัวเอง กับช่องทางแก้ปัญหาสังคมหลากหลายร่วมกับองค์กรเพื่อสังคมตัวจริงกว่า 100 องค์กร ผู้ขับเคลื่อนงาน 5 ประเด็นหลัก “การศึกษา คนพิการ ต้านทุจริต สิ่งแวดล้อม สุขภาพ” พร้อมช่องทางการให้ ทั้ง “เทใจ ปันกัน ฟู้ดฟอร์กู๊ด โซเชียลกิฟเวอร์ และเครือข่ายจิตอาสา” บนพื้นที่ 6 พาวิลเลียนนำเสนอปัญหาและทางออกให้ทุกคนมีส่วนร่วมกว่า 100 กิจกรรม กำหนดจัดวันที่ 13-16 กันยายนนี้ ณ เซ็นทรัลเวิลด์
นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อคนไทย ในฐานะตัวแทนภาคสังคม ผู้ร่วมจัดงาน กล่าวว่า การพัฒนาและแก้ไขปัญหาสังคมขนาดใหญ่นั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชน และองค์กรที่หลากหลาย มีประชาชนตื่นรู้จำนวนมากที่พร้อมจะร่วมมือกัน แต่การที่จะเกิดความร่วมมือขนาดใหญ่ได้นั้น จำเป็นต้องมีกลไกการจัดการร่วมที่หลากหลาย และมีการจัดการอย่างเป็นระบบ จึงจะทำให้การแก้ปัญหาสังคมมีประสิทธิผล เอื้อต่อการร่วมปฏิบัติได้จริง
“งานทำดีหวังผลเริ่มต้นที่เราจะเป็นประตูโอกาสสำหรับคนที่ต้องการช่วยแก้ปัญหาสังคมได้พบกับช่องทางการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสังคมที่หลากหลาย ที่สำคัญยังได้ทำงานร่วมกับองค์กรเพื่อสังคมตัวจริง มีผลสำเร็จจริงที่ช่วยกันพัฒนาในลักษณะความร่วมมือ จึงขอเชิญชวนประชาชนคนไทยมาศึกษาและเริ่มลงมือทำด้วยกัน” นายวิเชียรกล่าว
ทั้งนี้ งาน Good Society Expo 2018 มีการแบ่งพื้นที่นำเสนอ 6 พาวิลเลียน กระจายตัวกันอยู่ภายในบริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กลุ่มแรกเป็น 5 พาวิลเลียนที่แก้ปัญหาสังคมเชิงประเด็น ที่มาจากการทำงานของ “องค์กรตัวกลาง” และภาคีเครือข่ายซึ่งในงานนี้มีองค์กรภาคีร่วมจัดงานกว่า 100 องค์กร ประกอบด้วย ประเด็นต่อต้านคอร์รัปชัน โดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เป็นองค์กรตัวกลาง ประเด็นการศึกษา โดยโครงการร้อยพลังการศึกษา ประเด็นสิ่งแวดล้อม โดยมูลนิธิเอ็นไลฟ ประเด็นผู้พิการ โดยบริษัท กล่องดินสอ จำกัด และ ประเด็นสุขภาพ โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้แก่
“พาวิลเลียน Social Inclusion” (คนพิการ) นำเสนอนวัตกรรมลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการ เช่น แอพพลิเคชันแท็กซี่เพื่อคนพิการ แอพพลิเคชันพรรณนาเพื่อให้คนตาบอดดูหนังผ่านการฟังเสียง วีลแชร์สั่งได้โดยใช้สายตา เวิร์คชอปคลาสทำอาหารแบบคนตาบอด เปิดตัวโครงการวิ่งด้วยกัน ฯลฯ “พาวิลเลียนสุขภาพ” นำเสนอแผนรณรงค์ให้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพทั้ง 5 ช่วงวัย (เด็ก วัยรุ่น คุณแม่ วัยทำงาน ผู้สูงอายุ) เช่น โซนแม่และเด็ก โซนเด็ก ชวนเรียนรู้เทคนิคเล็กๆ ในการสร้างลูก กิจกรรมโรงเรียนฉลาดเล่น โซนวัยรุ่น หาคำตอบว่าเพศและเซ็กส์เป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ โซนวัยทำงาน ชวนพักตับรับเข้าพรรษา โซนผู้สูงวัย โยคะวัยเก๋า ฯลฯ
นายแพทย์วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธานกรรมการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะตัวแทนภาครัฐ ผู้ร่วมจัดงานพาวิลเลียนสุขภาพ และ Social Inclusion กล่าวว่า การสร้างเสริมสุขภาพแนวใหม่ต้องอาศัยการทำงานแบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน งานทำดีหวังผลเป็นพื้นที่ความร่วมมือกลางประสานภาคีเครือข่าย ตลอดจนเป็นช่องทางหนึ่งที่กระตุ้นให้คนไทยทุกคนลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพตัวเอง จึงขอใช้โอกาสในการจัดงานนี้เชิญชวนคนไทยให้ร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถของตนเองและร่วมสร้างสรรค์สุขภาวะให้สังคมไทย
“พาวิลเลียนต่อต้านคอร์รัปชัน” เน้นสร้างประสบการณ์ให้ผู้เข้าร่วมค้นพบว่า ปัญหาคอร์รัปชันเป็นเรื่องใกล้ตัวและสามารถช่วยกันแก้ปัญหาได้ผ่านการเรียนรู้กับกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรม “คุณเหมาะกับเครื่องมือต้านโกงอะไร?” เพื่อให้ประชาชนได้รู้จักเครื่องมือและมีส่วนร่วมในการต่อต้านคอร์รัปชัน โดยหนึ่งในคำตอบของเครื่องมือที่จะนำเสนอในงานนี้ ได้แก่ กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย (THAI CG Funds)
นางสาวดวงกมล พิศาล เลขาธิการสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ในฐานะตัวแทน“ภาคตลาดทุน” ซึ่งเป็นภาคี ผู้ร่วมจัดในพาวิลเลียนต่อต้านคอร์รัปชัน จาก “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย” กล่าวว่า กองทุนฯเกิดจากความเชื่อว่า ภาคตลาดทุนน่าจะทำหน้าที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้ด้วย จึงหาวิธีเชิญชวนประชาชนผู้ถือหน่วยผ่านการลงทุนในกองทุนรวมกับ 11 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พร้อมกับแบ่งค่าบริหารจัดการกองทุนจำนวนหนึ่งไปสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมที่มีวัตถุประสงค์ด้านการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน และสร้างเสริมธรรมาภิบาล ปัจจุบัน กองทุนฯ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) 5,700 ล้านบาท (ณ 31 ส.ค.) โดยได้เริ่มสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมด้านพัฒนาธรรมาภิบาลและต่อต้านคอร์รัปชัน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ CAC for SME โครงการเกมออนไลน์ เดอะ คอร์รัป นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีประชาชนผู้ถือหน่วยจำนวน 9,875 บัญชี (ณ 30 มิ.ย.) มาร่วมสร้างผลทางสังคมพร้อมกับการลงทุน
นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมใน “พาวิลเลียนการศึกษา” พบกับการนำเสนอแคมเปญ ร่วมมือกับแบรนด์สินค้าชั้นนำร่วมผลิตสินค้ารุ่นพิเศษออกจำหน่ายและนำรายได้ส่วนหนึ่งมาเป็นทุนสนับสนุนการพัฒนาเยาวชนด้อยโอกาส จึงชวนร่วมโหวตสินค้ารุ่นพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำเพื่อนำไปผลิตจริง
“พาวิลเลียนสิ่งแวดล้อม” นำเสนอวิกฤตปัญหาขยะพลาสติก และแนวทางการแก้ไขที่ทุกคนทำได้ง่ายๆ ด้วยแคมเปญ “มาร่วมกันปลูกต้นไม้ด้วยการลดการใช้พลาสติกในมือคุณ” ชวนร่วมกิจกรรม “Yes กระติก No พลาสติก ร่วมกันลดขยะพลาสติก” หันมาใช้กระติกน้ำหรือแก้วน้ำส่วนตัว หรือรับส่วนลดพิเศษซื้อกระติกน้ำลาย Limited จากศิลปินรักษ์โลก
ขณะเดียวกัน ยังมีอีก 1 พาวิลเลียนที่นำเสนอกลไก“การให้” ซึ่งประชาชนสามารถลงมือทำผ่านช่องทางการแบ่งปันต่างๆ ที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน ทั้ง ปันกัน เทใจ ฟู้ดฟอร์กู๊ด โซเชียลกิฟเวอร์ และเครือข่ายจิตอาสา
รวมแล้วทั้ง 6 พาวิลเลียนจะมีกิจกรรมจำนวนกว่า 100 กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นตลอด 4 วันงาน
อนึ่ง งาน Good Society Expo 2018 เป็นกลไกสร้างพลเมืองที่มีส่วนร่วม (Active Citizen) ด้วยการเปิดพื้นที่แนะนำช่องทางการลงมือทำให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้ามามีส่วนร่วมแก้ปัญหาสังคม นับได้ว่าเป็นงานที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายที่มุ่งเน้นงานพัฒนาความยั่งยืนทุกภาคส่วน ประกอบด้วย ภาคีภาคสังคม ภาคธุรกิจ และภาครัฐ โดยมีจุดเริ่มต้นจากความร่วมมือระหว่างมูลนิธิเพื่อคนไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มาตั้งแต่การริเริ่มงาน “คนไทยขอมือหน่อย” ครั้งแรกเมื่อปี 2556 ก่อนขยายวงสู่ความร่วมมือที่กว้างขึ้นและลึกขึ้นในงานนี้
ในการจัดงานเมื่อปี 2560 มีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนกว่า 16,000 คน นำมาสู่การลงมือทำช่วยเหลือสังคมการแบ่งปันในทุกๆ ด้าน ติดตามรายละเอียดที่ www.khonthaifoundation.org หรือ facebook.com/khonthaifoundation ลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ www.goodsocietyexpo.com